สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การกำจัดไขมัน ใน สุราษฎร์ธานี
CoolScupting คือการกำจัดไขมันด้วยความเย็นโดยจะใช้ความเย็นระดับจุดเยือกแข็งที่ +5องศา ถึง -11 องศา ความเย็นที่จุดเยือกแข็งนี้จะกำจัดเซลล์ไขมันได้อย่างถาวรโดยไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง
การกำจัดไขมันด้วยความเย็นมีวัตถุประสงค์ปรับรูปร่างและกำจัดเซลล์ไขมันในจุดที่มีปัญหา วิธีนี้ไม่สามารถลดน้ำหนักได้
จุดที่จะทำCoolSculpting จะเป็นจุดที่กำจัดไขมันได้ยาแม้จะออกกำลังกายแล้ว เช่น หน้าท้อง ต้นแขน คอ(บริเวณใต้คาง) หลัง ข้างลำตัว ปีกหลังเป็นต้น
อย่างไรก็ตามนี่ป็นวิธีกำจัดไขมันโดยไม่ต้องผ่าตัดไม่ต้องดูดออกจึงมีความเสี่ยงน้อยกว่าการสลายไขมันด้วยวิธีอื่น อย่างเช่น การดูดไขมัน
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
ขั้นตอนการทำCoolScupting แพทย์จะวางแผ่นเจลใสๆลงบนจุดที่คุณต้องการกำจัดไขมันส่วนเกิน แผ่นเจลนี้จะเป็นตัวป้องกันไม่ให้ผิวเกิดอันตรายได้ หลังนั้นแพทย์จะวางเครื่องทำความเย็นลงบนแผ่นเจล เมื่อเสร็จแล้วแพทย์จะเอาเครื่องทำความเย็นออกและนวดเพื่อทำให้เซลล์ไขมันแตก
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
คุณสามารถทำกลับไปทำกิจกรรมตามปกติและทำงานได้ทันทีหลังการทำCoolSculpting โดยไม่ต้องพักฟื้น
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
หลังการทำCoolSculpting จะมีรอยช้ำ แดง แสบ คัน และชา แต่อาการทั้งหมดนี้จะหายไปเองภายใน2-3วัน เพื่อให้คุณรู้สึกสบายตัวควรใส่เสื้อผ้าที่ใหญ่กว่าตัว
หากคุณรู้สึกเจ็บมากแพทย์จะแนะนำให้ทานยาบรรเทาปวดเช่น ไทลินอล(Tylenol) หรือ ยาแก้อักเสบ เช่นไอบูโพรเฟน(Ibuprofen)และไม่ควรทานยาก่อนการทำเพราะจะทำให้เกิดผลข้างเคียงมากขึ้นได้
และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีเป็นเวลานาน ไม่ต้องกลับไปทำอีกคุณควรเปลี่ยนการทานอาหาร โดยทานอาหารที่เป็นประโยชน์และดีต่อร่างกาย เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช หลีกเลี่ยงของหวาน อาหารทอด และอาหารปรุงสำเร็จรูป คุณต้องออกกำลังอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 30-60นาทีทุกวัน
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
CoolSculpting เป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีอัตราความสำเร็จสูงประมาณ82%ของผู้ที่ทำพึงพอใจกับผลลัพธ์และจะบอกต่อเพื่อนๆ จากการศึกษาพบว่าหลังการทำ1ครั้งไขมันจะลดลงประมาณ 20-80% ขณะที่บางคนเห็นผลหลังการทำเพียงครั้งเดียวแต่บางคนอาจจะต้องทำหลายครั้ง อย่างไรก็ตามคุณจะไม่เห็นผลหลังการทำทันทีแต่จะเริ่มเห็นผลในอาทิตย์ที่4 และจะเห็นผลอย่างชัดเจนในเวลา2เดือน
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี
สุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของภาคใต้ สภาพภูมิประเทศมีความหลากหลายตั้งแต่เกาะขนาดต่าง ๆ ภูเขา ที่ราบสูง ที่ราบชายฝั่งทะเล และที่ราบลุ่มแม่น้ำ มีแม่น้ำที่สำคัญ คือ แม่น้ำตาปีและแม่น้ำไชยา มีชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 156 กิโลเมตร สุราษฎร์ธานีถือเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญอันดับต้นๆ ของประเทศอีกจังหวัดหนึ่ง มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน หมู่เกาะอ่างทอง เป็นต้น สุราษฎร์ธานียังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทุกรูปแบบครบครัน มีการคมนาคมที่สะดวกสบายทั้งทางรถ รถไฟ เรือ และมีสนามบินถึง 2 แห่ง ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี จนปัจจุบันได้กลายเป็นเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวของชายฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนใต้ และยังพบว่ามีพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเกิดขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตอำเภอเกาะสมุย เนื่องจากความพร้อมของอุปกรณ์และเครื่องมือที่ให้บริการผ่านมาตรฐานและมีคุณภาพ จึงทำให้การให้บริการเชิงสุขภาพของสมุยเป็นที่มีชื่อเสียง
สถานที่ยอดนิยมในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เขื่อนรัชชประภา หรือ เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือที่รู้จักกันในนามของกุ้ยหลินเมืองไทย มีทัศนียภาพที่สวยงามไปด้วยภูเขาและชะง่อนผาหินปูนที่โอบล้อมอยู่โดยรอบ ไฮไลท์เด็ดของเขื่อนเชี่ยวหลานนั้นก็คือหินสามเกลอ มีกิจกรรมให้เล่นหรือทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพายเรือคายัค ชมถ้ำ หรือเล่นน้ำดูฝูงปลา เป็นต้น
เกาะพะงัน สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตติดอันดับโลก ไฮไลท์เด็ดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมายังเกาะพะงันก็คือการเข้าร่วมฟูลมูนปาร์ตี้ โดยฟูลมูนปาร์ตี้นั้นจะจัดขึ้นเดือนละ 2 ครั้งในคืนพระจันทร์เต็มดวง ด้วยความห่างไกลของเกาะที่ต้องใช้เวลาเดินทางนานนับชั่วโมง ทำให้เกาะพงันนั้นยังมีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์และเงียบสงบเพราะแทบจะไม่ได้รับการรบกวนจากมนุษย์มากนักเช่นกัน
เกาะสมุย ถือเป็นเกาะหลักของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ในพื้นที่ทะเลอ่าวไทย ความสวยงามของน้ำทะเลและชายหาดต่าง ๆนั้นก็ไม่แพ้เกาะอื่น ๆที่ตั้งอยู่ทางฝั่งทะเลอันดามันเช่นกัน สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆที่เป็นที่นิยมในเกาะสมุยก็คือ หาดเฉวง หาดละไม หินตาหินยาย วัดพระใหญ่ เป็นต้น
การเดินทางในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เราสามารถเดินทางไปยังจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้โดยหลากหลายวิธีทั้ง รถยนต์ รถประจำทาง รถไฟ เรือ และเครื่องบิน ส่วนการเดินทางสัญจรในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเอง หากไม่มีรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถเดินทางได้โดยรถบัส รถสองแถว หรือรถตุ๊กตุ๊กซึ่งเป็นที่นิยมของคนในพื้นที่โดยที่ค่าโดยสารจะขึ้นอยู่กับระยะทาง ส่วน รถแท็กซี่ ในตัวเมืองจะค่อนข้างหายากและมีราคาที่สูงกว่ารถโดยสารชนิดอื่น ๆ
ประชากรหรือผู้คนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เนื่องจากสุราษฎร์ธานีมีพื้นที่ของจังหวัดขนาดใหญ่ ทำให้ความหนาแน่นของประชากรถือว่าเบาบาง โดยประชากรส่วนใหญ่จะอยู่ในบริเวณอำเภอเมือง ใช้พื้นที่ส่วนใหญ่ทำเกษตรกรรม รองมาเป็น ปศุสัตว์ ประมง อุตสาหกรรม และเหมืองแร่ มีสินค้าที่ขึ้นชื่ออย่าง ไข่เค็มไชยา ผู้คนส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาพุทธ
สภาพภูมิอากาศในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เนื่องจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีตั้งอยู่ในภาคใต้และติดกับทะเล ลักษณะอากาศในแต่ละฤดูกาลจึงไม่แตกต่างกันมากนัก สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ฤดูกาลเช่นกัน ฤดูร้อน เริ่มประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม ฤดูฝน เริ่มประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม และฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
อื่นๆ
ผลไม้ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แก่ เงาะโรงเรียน เงาะที่นี่จะหวานและกรอบซึ่งมีความแตกต่างจากเงาะที่อื่น
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็โดดเด่นในเรื่องการเข้าสถานเสริมความงาม หรือการทำสปา ปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตัดสินใจเข้ามาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพก็คือ ความสะดวกสบาย และธรรมชาติที่สวยงาม อุปกรณ์และเครื่องมือที่ให้บริการผ่านมาตรฐานและมีคุณภาพ