Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

Dollars sign จองกับเราไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ค้นหาจากแผนที่

คลินิก / ร้าน อื่นๆ ที่มี การดูดไขมัน

โรงพยาบาลซานเปาโล
โรงพยาบาลซานเปาโล
โรงพยาบาลซานเปาโล
โรงพยาบาลซานเปาโล
โรงพยาบาลซานเปาโล
Mordee หัวหิน, ประจวบคีรีขันธ์
2.5 จาก 5
4 รีวิว
2024 ภาษาไทย เวชศาสตร์ทั่วไป ศัลยกรรมทั่วไป ประสาทวิทยา ร้านกาแฟ ฟรี Wi-fi ห้องพักสำหรับผู้ใช้วีลแชร์
โรงพยาบาล ซานเปาโล หัวหิน โรงพยาบาลเอกชนในหัวหินที่ให้บริการทางการแพทย์ในการรักษาโรค และให้บริการรักษาโรคเฉพาะทาง พร้อมเครื่องมือทางการแพทย์ ที่ทันสมัยปลอดภัย โรงพยาบาลได้รับการรับรองคุณภาพโรงพยาบาล ขั้นที่ 2 สู่ HA ซึ่งกำลังดำเนินการขอขั้นที่ 3 จากสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
การดูดไขมัน
สอบถามกับทางคลินิก

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การดูดไขมัน ใน ประจวบคีรีขันธ์

การดูดไขมัน เป็นการทำ ศัลยกรรม ความงาม รูปแบบหนึ่ง ซึ่งใช้เทคนิค ในการดูด ไขมันส่วนเกิน จากชั้นใต้ผิวหนัง ออกจาก ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เฉพาะจุด ในจุดที่ ลดไขมัน ได้ยาก ถึงแม้ว่า จะควบคุม อาหารและทำการ ออกกำลังกาย แล้วก็ตาม เช่น ต้นขา ก้น แขน หน้าท้อง สะโพก คอ เป็นต้น

การดูดไขมัน ที่ใช้ใน ปัจจุบัน มีด้วยกัน 4 วิธี ดังนี้คือ

1. การดูดไขมัน แบบเวเซอร์ ( The Vibration Amplification of Sound Energy at Resonance = VASER Liposuction) เป็นการใช้ คลื่นเสียง อัลตราซาวด์ เทคนิค ไปสั่นสลายไขมัน ในส่วนที่ต้องการ ให้เหลวลง  และทำให้ สามารถ ดูดออกมา ได้ง่ายขึ้น และทำให้ เจ็บตัวน้อย รอยแผลเล็ก โดยที่ไม่ได้ ทำลายหลอดเลือดใกล้เคียง หรือ เซลล์ประสาท เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการ ดูดไขมัน ในปริมาณเยอะ แผลหายไว้ ไม่เจ็บตัวมาก ไม่ต้องพักฟื้น แต่จะมี ราคาแพง พอสมควร

2. การดูดไขมัน ด้วยคลื่นไฟฟ้า (Body Tite) เป็นการยิง คลื่นวิทยุ ร่วมกับ คลื่นความร้อน เทคนิค เข้าไปละลาย ไขมันให้ เหลวเหมือนกับ วิธีแรก แต่จะต่างกับ แบบเวเซอร์ ตรงที่จะช่วย ในเรื่อง กระชับผิว ไปในตัว เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แก่ผู้ที่อยาก ดูดไขมัน แล้วดูสวย แต่งตึง โดยที่ไม่ต้อง เย็บเก็บ หนังหน้าท้อง ในภายหลัง ราคาก็ ค่อนข้างสูง เช่นกัน

3. การดูดไขมัน แบบพาวเวอร์ (Power Assisted Liposuction = PAL) คล้าย ๆ กับ การดูดไขมัน ด้วยท่อแบบเดิม แต่จะใช้ เครื่องมือ ทันสมัย คือ หัวมอเตอร์ แบบสั่น ทำให้สามารถ แยกชั้นไขมัน ที่สะสม ไว้นานจน เป็นพังผืดได้ดี มีประสิทธิภาพ ในการสลายไขมัน ที่มีปริมาณมาก มีความปลอดภัย ต่อชีวิต มากขึ้น แต่ก่อนทำ จะต้องมี การวางยาสลบ งดกินอาหาร บางประเภท และต้องมี การตัดไหม เหมือนการผ่าตัด แบบทั่ว ๆไป ไม่มีเหมาะ กับผู้ที่ แพ้ยาสลบ หรือ ยาชา

4. การดูดไขมัน ด้วยพลังน้ำ (Water Jet) เป็นการใช้ เทคนิค การฉีดน้ำ เข้าไป แยกเซลล์ไขมัน ออกจากเนื้อเยื่อ ผิวหนัง ก่อนดูดออก เหมือนวิธีอื่น ๆ แต่มี ความพิเศษ คือ เซลล์ไขมัน ยังคงมี สภาพสมบูรณ์ ที่สามารถ นำไปใช้ แต่งเติมส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ให้ใหญ่ และต่งตึง ขึ้นได้ ซึ่งบริเวณ ที่ได้รับ ความนิยม คือ บริเวณหน้าอก และสะโพก จึงเหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการ เสริมหน้าอก, เสรืมจมูก, เสริมสะโพก และอื่น ๆ แบบไม่ไม่ต้องใช้ ซิลิโคน

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

เทคนิคการ ดูดไขมัน

โดยทั่วไปแล้ว ขั้นตอน การดูดไขมัน จะใช้ระยะ เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งผู้ที่ เข้ารับการ ดูดไขมัน อาจไม่จำเป็น ต้องพักรักษาตัว อยู่ในโรงพยาบาล โดยจะขึ้น อยู่กับการ ดูดไขมัน แต่ละประเภท และสังเกต อาการ อีกประมาณ 1 ชั่วโมง หลังทำเสร็จ ซึ่งหลังจาก การดูดไขมัน เรียบร้อยแล้ว อาจจะมี น้ำไหลซึม ออกจากแผลได้ นอกจากนั้นแล้ว บริเวณที่ ดูดไขมัน อาจจะมี อาการบวม ช้ำ เจ็บปวด หลังจาก การดูดไขมันได้ แต่จะเป็น เพียงระยะ ไม่กี่สัปดาห์ เท่านั้น

สิ่งที่ต้อง คำนึงถึง ในการ ดูดไขมัน

  1. การดูดไขมัน หน้าท้อง ได้ช่วยในเรื่อง ลดน้ำหนัก
  2. การดูดไขมัน ต่างจาก การผ่าตัด กระชับหน้าท้อง เพราะการดูดไขมัน เหมาะสำหรับ คนที่มี ไขมันสะสมมาก แต่ลายหน้าท้อง และความ หย่อนคล้อยน้อย แต่ใน ผู้ที่ต้องการ จัดการปัญหา เรื่องหนังท้อง เหี่ยวย่น, หน้าท้องลาย ควรใช้การ ผ่าตัดกระชับ หน้าท้อง
  3. ศึกษาข้อมูล ว่าข้อดี – เสีย เป็นอย่างไร และสำรวจ ตัวเอง โดยละเอียด ว่าเหมาะกับ การดูดไขมัน หรือไม่? ดังนั้น จึงควรปรึกษา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากใครมี ประวัติแพ้ยา หรือใช้ ยาสมุนไพร อาหารเสริม หรือยารักษาโรค ประจำตัว ควรแจ้งให้ แพทย์ทราบเพื่อ การวางแผน ดูแลรักษา อย่างเหมาะสม
  4. ห้ามคนที่มี โรคประจำตัว ทำเด็ดขาด เช่น โรคหัวใจ, โรคเบาหวาน, โรคเอดส์ และโรค ที่เกี่ยวกับ ระบบไหลเวียนเลือด ที่ผิดปกติ ซึ่งอาจ ทำให้ช็อค และมีโรค แทรกได้
  5. เลือกใช้บริการ จากคลินิก ที่ได้ มาตรฐาน ปลอดภัย กับชีวิต ตัวเองที่สุด

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

ระยะเวลา ในการพักฟื้น

โดยทั่วไปแล้ว การดูดไขมัน ผู้ที่ทำ การรักษา สามารถกลับมา ทำงานได้ ภายใน ไม่กี่วัน และทำกิจกรรม หรือใช้ชีวิต ได้อย่างเป็น ปกติภายใน 2 สัปดาห์ แต่อาจมี ความแตกต่าง กันไปใน แต่ละบุคคล

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

การดูแล ตัวเอง หลังการดูดไขมัน

การดูดไขมัน นั้นให้ผล ถาวรสำหรับ ไขมันที่ดูด ออกไปแล้ว แต่อย่างไร ก็ตาม หากไม่ออกกำลังกาย และดูแลเรื่องอาหารให้ดี ก็สามารถ ที่จะมี ไขมันเพิ่ม มาใหม่ได้ หรือน้ำหนัก เพิ่มอีก เพื่อผลลัพธ์ ที่ดีที่สุด จึงควร ออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ และควบคุม การรับประทาน อาหาร ขั้นตอนหลังจาก การดูดไขมัน เสร็จแล้วแพทย์ อาจให้สวมชุด บีบกระชับ สัดส่วน ไว้ในช่วง 1-2 เดือนแรก เพื่อช่วยบรรเทา อาการบวม และอาจมี ยาปฏิชีวนะ ไว้กินเพื่อ ป้องกัน การติดเชื้อ ที่อาจเกิดขึ้นได้

ผลข้างเคียง ของการดูดไขมัน

  • อาการชา ซึ่งจะหายไป ได้เองภายใน 6-8 สัปดาห์
  • อาการบวม และช้ำ ซึ่งอาจมี นานถึง 6 เดือน
  • รอยแผลเป็น ที่อาจมีได้
  • การอักเสบ บริเวณที่ทำ การดูดไขมัน
  • ถุงใต้ผิวหนัง ที่มีการสะสม ของของเหลว

แต่ในบางรายอาจมีผลข้างเคียงที่ อาจเกิดขึ้นได้ ดังนี้

  • ภาวะ ลิ่มเลือด หรือไขมัน อุดกั้นในปอด
  • ห้อเลือด
  • อาจสร้าง ความเสียหาย แก่อวัยวะ อื่น ๆ ในระหว่าง ขั้นตอน การดูดไขมัน เช่น ท่อหรือเข็มแทง ทะลุลำไส้
  • การเปลี่ยนแปลง ของสีผิว ในบริเวณ ที่ได้รับ การรักษา
  • น้ำท่วมปอด หัวใจล้มเหลว ซึ่งอาจเป็น อันตราย ถึงชีวิต

นอกจากนี้แล้ว ความเสี่ยงที่ เกิดในระหว่าง การทำรักษา เช่น เกิดลิ่มเลือด ในหลอดเลือดดำ มีเลือดออกมาก เกิดการ ติดเชื้อ และมีอาการ แพ้ยาชา

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

การดุดไขมันยังคงเป็นวิธีหนึ่งที่นิยมเพื่อการปรับรูปร่างที่ดีขึ้น และมีอัตราความสำเร็จถึง 85% แต่การดูดไขมันก็ยังคงมีความเสี่ยง

และภาวะแทรกซ้อนแตกต่างกันไปขึ้นอยูกับประสบการณ์และทักษะของศัลยแพทย์ 

ปัจจัยความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดได้ดังนี้:

  • การบวมช้ำ
  • การอักเสบ
  • ภาวะลิ่มเลือดอุดหลอดเลือดดำ หรือภาวะการเกิดลิ่มเลือด
  • การเปลี่ยนแปลงระดับของเหลวในร่างกายอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับไต หรือหัวใจ 
  • เส้นเลือดอุดตันที่ปอด ซึ่งอาจเกิดจากไขมันเข้าไปในเส้นเลือดและไปปิดกั้นปอด
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์ ถือเป็นจังหวัดหนึ่งของภาคกลางแต่มีพื้นที่อยู่ตอนบนของภาคใต้ เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ทั้งวัดวาอาราม น้ำตก อุทยานแห่งชาติ เป็นสถานที่ตากอากาศที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯโดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยมีสถานที่ยอดนิยมต่าง ๆที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี เช่น หัวหิน ปราณบุรี เป็นต้น และจากข้อมูลสถิติด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบว่ามีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอดทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และหากพูดถึงการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ประจวบคีรีขันธ์เองก็มีสถานพยาบาลต่าง ๆที่พร้อมรองรับและให้บริการ เพราะเป็นหนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยมที่สามารถเดินทางเข้ามารับการรักษาพร้อม ๆกับการพักผ่อนท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

สถานที่ยอดนิยมในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

หัวหิน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรก ๆที่ทุกคนจะต้องนึกถึงหากพูดถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ใช้เวลาขับรถแค่ประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้นจากกรุงเทพฯ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลากหลายที่เป็นที่นิยม เช่น ชายหาดหัวหิน วัดห้วยมงคล ตลาดนัดโต้รุ่งหัวหิน สถานีรถไฟหัวหิน เป็นต้น
ปราณบุรี นอกจากหัวหินแล้ว ปราณบุรี สามร้อยยอดก็ยังเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เป็นที่นิยมเช่นเดียวกันโดยอยู่ห่างจากหัวหินประมาณ 30 นาที มีบรรยากาศที่เงียบสงบ มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ และชายหาดที่สวยงาม สถานที่ยอดนิยมในปราณบุรี ได้แก่ ถนนคนเดินปราณบุรี หาดเขากะโหลก ถ้ำพระยานคร วนอุทยานปราณบุรี เป็นต้น
เขาช่องกระจก เป็นภูเขาขนาดเล็กอยู่ด้านหลังศาลากลางจังหวัด มีบันไดขึ้นไปจนถึงยอดเขาซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธบาทจำลอง ด้านทิศเหนือของภูเขามีช่องโปร่งคล้ายกับกรอบของกระจก จากยอดเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของตัวเมืองและอ่าวประจวบได้อย่างสวยงาม

การเดินทางในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

จากกรุงเทพฯ เราสามารถเดินทางมายังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้โดยรถยนต์ รถตู้ รถโดยสารประจำทาง รถไฟ รวมทั้งเครื่องบิน ส่วนการเดินทางในตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์มีรถโดยสารประจำทางไปยังอำเภอต่าง ๆ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการยานพาหนะได้หลายรูปแบบตามอัธยาศัย ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว คิวรถจะอยู่ในสถานีขนส่งและตลาดเทศบาล 

ประชากรหรือผู้คนในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

มีผู้คนมากมายจากหลายจังหวัดได้ย้ายถิ่นฐานเข้ามาอาศัยในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หรือเข้ามาเพื่อทำงานทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพราะมีเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญเช่น หัวหิน ด้วยความเจริญของเมืองทำให้มีจำนวนประชากรมากมายที่เข้ามาอาศัยและมองหาบ้านหลังที่สองเป็นบ้านพักตากอากาศที่มีทำเลอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จึงทำให้เป็นที่นิยมย้ายเข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

สภาพภูมิอากาศในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์อยู่ในเขตมรสุม (ร้อนชื้น) อากาศโดยทั่วไปไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป มีความชื้นอากาศปานกลางเนื่องจากอยู่ใกล้ทะเล อุณภูมิเฉลี่ยตลอดปีไม่สูงมากนักโดยจะอยู่ในช่วง 27-28 องศาเซลเซียส

อื่น ๆ

ภาษา ผู้คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในเขตอำเภอเมืองถึงอำเภอหัวหิน จะมีสำเนียงการพูดคล้ายชาวเพชรบุรีแต่จะมีหางเสียงที่ค่อนข้างนุ่มนวลกว่า และจะมีผู้คนที่ใช้ภาษาปักษ์ใต้เป็นภาษาพูดอยู่เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นคนที่อาศัยอยู่ในเขตอำเภอที่ติดต่อกับจังหวัดในภาคใต้
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้วยเหตุผลหลายด้าน เช่น ค่าใช้จ่ายครองชีพที่ต่ำ สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบครัน ความปลอดภัยในการอยู่อาศัย รวมทั้งความพร้อมทางด้านการแพทย์ที่สามารถรองรับการรักษาได้ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น ทำให้จังหวัดนี้กลายเป็นสถานที่หนึ่งที่เป็นจุดหมายปลายทางของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ามารักษาหรือทำศัลยกรรมเสริมความงามในบ้านเรา