การรักษา โรคอ้วน ด้วยวิธีผ่าตัด (Bariatric Surgery)
โรคอ้วน เป็นโรค ที่มีการสะสม ของไขมัน ในร่างกาย มากถึงขนาด ที่อาจมี ผลเสีย ต่อสุขภาพ มากมาย โดยที่ให้ คนอ้วน มีปัญหา สุขภาพ เพิ่มขึ้น และมี อายุสั้นลง ซึ่งการตรวจดูว่า บุคคลนั้น อ้วนหรือไม่ สามารตรวจ ได้จาก ดัชนีมวลกาย ซึ่งเป็นการวัด มีค่าเท่ากับ น้ำหนัก (หน่วยเป็น กิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูง (หน่วยเป็นเมตร) ยกกำลังสอง บุคคลที่มี ดัชนี มวลกายเกิน 30 กิโลกรัม ต่อตารางเมตร ถือว่า เป็นโรคอ้วน แต่หากอยู่ ในช่วง 25-30 กิโลกรัม ต่อ ตารางเมตร ถือว่าเป็น น้ำหนักเกิน โรคอ้วน ส่งผล ให้เกิด โรคเบาหวาน ชนิดที่ 2, โรคหัวใจ, ภาวะ หยุดหายใจ ขณะหลับ ชนิดอุดกั้น, โรคมะเร็ง บางชนิด และโรคข้อเสื่อม สาเหตุที่ ทำให้เกิด โรคอ้วน คือ พันธุกรรม, การกินอาหาร มากเกินไป, การขาด การออก กำลังกาย, โรคของ ต่อมไร้ท่อ ยาหรือการ ป่วยจิตเวช เป็นหลัก การรักษา โรคอ้วน ส่วนใหญ่ สามารถ ทำได้โดย การจำกัด อาหาร และการออก กำลังกาย เป็นหลัก ของการ รักษาโรคอ้วน สามารถ ปรับปรุง คุณภาพอาหาร ด้วยการ ลดการ บริโภค อาหารที่มี พลังงานสูง เช่น อาหารที่มี น้ำตาล และไขมันสูง และเพิ่มการ รับประทาน อาหารที่มี กากใยอาหาร หรืออาจกิน ยาลดวามอ้วน เพื่อลด การดูดซึม ไขมัน และความ อยากอาหาร แต่หากการ ปรับการ รับประทาน อาหาร, การออกกำลังกาย และการใช้ยา ไม่ได้ผลแล้ว การผ่าตัด รักษาโรคอ้วน เป็นการรักษา ผู้ป่วย โรคอ้วน ที่ให้ผล การรักษา เป็นที่ ได้ผลเป็น ที่น่าพอใจ อีกทั้ง ยังเป็น การรักษา มาตรฐาน สำหรับผู้ป่วย ที่มี น้ำหนักตัวมาก เกินมาตรฐาน ซึ่งไม่สามารถ ออกกำลังกายได้ มีความเสี่ยง ในการบาดเจ็บ จากการ ออกกำลังกาย หรือเป็นโรคอ้วน ขั้นรุนแรง ที่เรียกว่า โรคอ้วน ทุพลภาพ
วิธีการผ่าตัด รักษาโรคอ้วน มีวิธีไหนบ้าง?
ปัจจุบัน การผ่าตัด รักษาโรคอ้วน มีหลากหลายวิธี แต่วิธี ที่ได้รับ ความนิยม มากที่สุด 3 วิธี คือ
- การผ่าตัด กระเพาะเพื่อ ลดน้ำหนัก แบบปรับได้ (Lap banding) คือ การนำห่วงรัด ที่สามารถ ปรับได้ ไปรัด กระเพาะ เพื่อลด ปริมาณ การทานอาหาร ลงต่อครั้ง เป็นการผ่าตัด ที่มีแผล ขนาดเล็ก ที่บริเวณ หน้าท้อง ซึ่งเป็น การผ่าตัด ด้วยการใช้ การส่องกล้อง ซึ่งขนาด ของห่วงรัด สามารถ ปรับได้ หลังทำ การผ่าตัด ด้วยการใช้ เข็มใส่น้ำ เข้าไป โดยปริมาณน้ำ ที่ใส่เข้าไป จะเป็นตัว คุมขนาด ห่วงรัด และปริมาณ การทานอาหาร ของกระเพาะ อาหาร ในแต่ละครั้ง ซึ่งวิธีนี้ ได้รับ ความนิยมมาก ทำง่าย และยังสามารถ เอาห่วงรัด ออกได้ เมื่อไม่ใช้งาน อีกทั้งยังมี มีภาวะ แทรกซ้อนน้อย การลดน้ำหนัก ด้วยวิธีนี้ ทำให้น้ำหนัก ลดได้ถึง 45-75% หลัง 2 ปี เช่น คนที่มี น้ำหนัก เกินพิกัด 55 กิโลกรัม จะลดได้ ประมาณ 25-40 กิโลกรัม ภายใน 2 ปีหลังการ ทำผ่าตัด
- การผ่าตัด บายพาส กระเพาะอาหาร และลำไส้ (Gastric bypass) คือ การทำ การผ่าตัด นำลำไส้ ไปต่อ กระเพาะอาหาร จึงทำให้ อาหารไม่ผ่าน ไปยังกระเพาะ จะทำให้ ทานอาหาร ได้น้อยและ รู้สึกอิ่มเร็ว วิธีการนี้ ได้ผล 62-68% ในปีแรก หลังปี 1-2 อาจลดได้ 50-75% เช่น คนที่มี น้ำหนักมากเกิน พิกัด 55 กิโลกรัม จะลดได้ ประมาณ 27-40 กิโลกรัม
- การตัด และเย็บ กระเพาะอาหาร Gastric sleeve (Sleeve gastrectomy) เป็นการผ่าตัด กระเพาะอาหาร ให้เล็กลง ทำให้ ฮอร์โมน ต่าง ๆ ลดลง ทำให้ไม่ รู้สึกหิว มีความปลอดภัย กว่าการควบคุม การหิว ด้วยวิธีการทำ Gastric bypass และมีความ ปลอดภัย กว่าวิธี Lap banding เนื่องจาก ไม่ต้องใส่ สิ่งแปลกปลอม เข้าสู่ร่างกาย ทำให้ น้ำหนักลด ได้ 33% ในปีแรก เช่น คนที่มี น้ำหนักมาก เกินพิกัด 55 กิโลกรัม จะลดลงได้ประมาณ 18 กิโลกรัม ในปีแรก
ภาวะ แทรกซ้อน หลังการ ผ่าตัด มีอะไรบ้าง?
- มีการติดเชื้อ
- ต้องทำการ ผ่าตัดใหม่
- มีเลือดออก
- ทางเดินอาหารรั่ว
หลังผ่าตัด สามารถเกิด ภาวะ แทรกซ้อน สำคัญ ได้ เช่น มีเลือด อุดตัน ที่ปอด, หัวใจ, เกิดโรค ปอดบวม, ทางเดิน ปัสสาวะ อักเสบ คล้ายการ ทำผ่าตัดทั่วไป แต่ภาวะ แทรกซ้อน เหล่านี้ จะน้อยลง หากทำใน สถานพยาบาล ที่มีแพทย์ หรือ ทีมงาน ที่มีความ เชี่ยวชาญ และมี เครื่องมือแพทย์ ที่พร้อมเพียง มีการติดตาม ผู้ป่วย หลังจาก การผ่าตัด อย่างสม่ำเสมอ
การผ่าตัด ลดน้ำหนัก ให้ผลดี อย่างไร ?
การผ่าตัด ลดน้ำหนัก สามารถให้ผล การลดน้ำหนัก ที่ยั่งยืน สามารถ รักษาโรค ร่วมต่าง ๆ ที่เกิดกับ โรคอ้วนได้ เช่น โรคเบาหวาน, โรคไขมัน ในเลือดสูง, โรคความดันสูง, โรคไขมัน พอกตับ, โรคนอนกรน การหยุด หายใจ ตอนนอนหลับ และภาวะ มีบุตรยาก เป็นต้น การผ่าตัด เพื่อรักษา โรคอ้วนนั้น จะเป็นการ แก้ปัญหา ที่สาเหตุ กล่าวคือ เป็นการผ่าตัด เพื่อลดขนาด ของกระเพาะ อาหาร หรือลด การดูดซึม ของลำไส้ เมื่อผ่าตัดแล้ว จะช่วยให้ ผู้ป่วย รับประทาน อาหาร ได้ลดลง ควบคุมอาหาร ได้ดีขึ้น จากการที่ กระเพาะ อาหารมี ขนาดเล็กลง
หลังทำ การผ่าตัด ต้องทำ อะไรบ้าง?
- ต้องพักฟื้นอยู่ ในโรง พยาบาล ประมาณ 3 วัน เพื่อแน่ใจว่า ไม่มีภาวะ แทรกซ้อน และไม่ต้อง รับยาแก้ปวด
- เมื่อแพทย์ อนุญาต ให้กลับบ้าน ได้ควรทาน อาหารที่ นักโภชนา บำบัดแนะนำ
- ให้ออก กำลังกาย เมื่อรู้สึก ดีขึ้นแล้ว มีโปรแกรม การออก กำลังกาย เฉพาะ ผู้ป่วย ประเภทนี้
- สิ่งสำคัญ ที่ควรทำ คืออะไร?
- ดื่มน้ำ ก่อนหรือ หลังทาน อาหาร 30 นาที
- เวลาทาน อาหาร อย่าทาน ตอนดูโทรทัศน์
- เคี้ยวอาหาร อย่างช้า ๆ และละเอียด
- ทานอาหาร ทุกมื้อ แต่ทาน ทีละน้อย บ่อยครั้ง
- หยุดทาน อาหาร เมื่อรู้สึกอิ่ม
- หลีกเลี่ยง การทานอาหาร ที่มีไขมันสูง หรือของมัน และหวาน
- ทานอาหาร ที่มีวิตามิน และอาหารเสริม ตามความจำเป็น
ดังนั้น หลังการผ่าตัด จะต้องใช้ เวลา ในการปรับตัว เรื่องการทาน อาหาร อาจจะไม่ชอบ อาหารที่เคยชอบ หรือทานอาหารใหม่ ที่ไม่เคย
ทาน มาก่อนจน ทำให้เครียด ซึ่งจะขึ้น อยู่กับ ฮอร์โมน ที่ออกมาด้วย จึงต้อง ปรึกษา นักโภชนบำบัด ซึ่งจะใช้ เวลาประมาณ 1-2 ปี จึงจะรู้ว่า น้ำหนัก เป็นอย่างไร ทั้งนี้ ต้องปรึกษา นักโภชนา บำบัดสม่ำเสมอ จำกัดอาหาร ออกกำลังกาย และทานแต่ อาหารที่มี ประโยชน์ทุกวัน ต่อเนื่อง ถึงหลังทำผ่าตัด จนน้ำหนักคงที่
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจังหวัดปทุมธานี
ปทุมธานีเป็นหนึ่งในจังหวัดปริมณฑลที่มีความเจริญในด้านต่าง ๆเป็นอย่างมาก เป็นเมืองศูนย์กลางทางการศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของภูมิภาค มีมหาวิทยาลัยและสถานศึกษาต่าง ๆอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วย มรดกทางศิลปะวัฒนธรรมและเอกลักษณ์อื่น ๆโดยเฉพาะวัฒนธรรมของชาวมอญ และด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้กรุงเทพมหานคร มีการคมนาคมที่สะดวก จังหวัดปทุมธานีจึงเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวทางเลือกของนักท่องเที่ยวในปัจจุบันรวมไปถึงการมีโรงพยาบาล คลินิก สถานเสริมความงามที่ทันสมัยเพื่อรองรับความต้องการของทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ
สถานที่ยอดนิยมในจังหวัดปทุมธานี
พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ แลนด์มาร์คตึกทรงลูกเต๋าที่ต้องไปเที่ยวที่ปทุมธานี ที่นี่จัดแสดงทั้งประวัติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พลังงาน วิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน ภูมิปัญญาไทย การกำเนิดและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต เป็นต้น ถือเป็นอีกที่เที่ยวที่ให้ความรู้ ควบคู่ไปกับความสนุกสนาน
วัดโบสถ์ เป็นวัดเก่าแก่และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจังหวัดปทุมธานี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อเหลือประดิษฐานอยู่ อีกทั้งยังมีรูปปั้นเหมือนของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี องค์ใหญ่ให้พุทธศาสนิกชนได้เดินทางมากราบไหว้ขอพร และเมื่อเร็ว ๆนี้ก็ได้สร้างพระพุทธโสธร องค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่ใกล้ ๆ กับหลวงพ่อโตอีกด้วย
วัดไผ่ล้อม เป็นวัดโบราณที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัย ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศ เนื่องจากบริเวณวัดนั้นมีต้นไม้ขึ้นอยู่หนาแน่นร่มรื่นเป็นที่อาศัยของนกปากห่างจำนวนมาก
การเดินทางในจังหวัดปทุมธานี
ปทุมธานีเป็นจังหวัดที่เชื่อมต่อกับกรุงเทพฯ ด้วยถนนหลายสายไม่ว่าจะเป็นการเดินทางมาด้วยรถยนต์ รถโดยสารประจำทาง หรือทางรถไฟ ส่วนในตัวจังหวัดก็มีรถชนิดต่าง ๆไว้คอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยว มีรถโดยสารประจำทางทั้งรถปรับอากาศและรถไม่ปรับอากาศวิ่งอยู่ทั่วไปตามถนนเส้นหลัก รถเมล์เล็ก รถสองแถว รถสามล้อเครื่อง และมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จอดอยู่ตามจุดต่าง ๆในจังหวัด เช่น หน้าสถานีรถไฟ สถานีขนส่ง ตลาดสด และห้างสรรพสินค้า ค่าบริการมีทั้งแบบตกลงกันตามแต่ระยะทางและแบบเหมาจ่าย
ประชากรหรือผู้คนในจังหวัดปทุมธานี
ปทุมธานี เป็นจังหวัดที่มีความหนาแน่นของประชากรค่อนข้างสูง โดยส่วนใหญ่อาศัยอยู่หนาแน่นบริเวณอำเภอคลองหลวง และอำเภอลำลูกกา อีกทั้งยังเป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรมมากมายและเป็นจังหวัดที่ใกล้เมืองหลวง ทำให้มีผู้คนเข้าออกจังหวัดปทุมธานีและอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นตลอดทั้งปี
สภาพภูมิอากาศในจังหวัดปทุมธานี
สภาพภูมิอากาศจังหวัดปทุมธานีมีลักษณะคล้าย ๆกับจังหวัดอื่น ๆ แบ่งออกได้เป็น 3ฤดู ได้แก่ ฤดูฝน ฤดูหนาวและฤดูร้อน โดยทั่วไปจะมีอากาศไม่หนาวจัดหรือร้อนจัดจนเกินไปและมีฝนตกต้องตามฤดูกาล
อื่น ๆ
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในจังหวัดปทุมธานี ด้วยความที่เป็นจังหวัด 1ใน 5 จังหวัดปริมณฑลที่มีความเจริญใกล้เคียงกรุงเทพฯ อีกทั้งผลของการขยายของความเจริญจากตัวเมืองหลวงเข้ามาสู่ชานเมืองมากขึ้น ทำให้ปทุมธานีมีสถานพยาบาลชั้นนำ คลินิก หรือสถานเสริมความงามที่ทันสมัยครบครันไม่แพ้ที่อื่น ๆที่กลายเป็นจุดมุ่งหมายหนึ่งที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้การพิจารณาในการเข้ามาทำการรักษาอีกด้วย