Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

Dollars sign จองกับเราไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ค้นหาจากแผนที่

คลินิก / ร้าน อื่นๆ ที่มี เสริมหน้าอก

เบลลา โหมด คลินิก
เบลลา โหมด คลินิก
เบลลา โหมด คลินิก
เบลลา โหมด คลินิก
เบลลา โหมด คลินิก
Mordee วัฒนา, กรุงเทพมหานคร
4.19 จาก 5
21 รีวิว
2024 ภาษาอาหรับ ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส เสริมความงาม โรคผิวหนัง ศัลยกรรมตกแต่งความงาม รถรับ-ส่ง ที่สนามบิน ฟรี Wi-fi หนังสือพิมพ์ต่างประเทศ
เคท๊อปคลินิก เป็นศูนย์ให้บริการเสริมความงามสไตส์เกาหลีแบบครบวงจร ที่ส่งตรง ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย มีทีมศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ จากการทำงานในศูนย์ศัลยกรรมความงามที่ดีที่สุดทั่วประเทศเกาหลี โดยมีจุดมุ่งหมายในการการส่งมอบความงามและการบริการที่ดีสุดแก่ลูกค้าทุกคน ศัลยแพทย์ท... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
เสริมหน้าอก
สอบถามกับทางคลินิก
เดอะซิบส์ คลินิก
เดอะซิบส์ คลินิก
เดอะซิบส์ คลินิก
เดอะซิบส์ คลินิก
เดอะซิบส์ คลินิก
Mordee วัฒนา, กรุงเทพมหานคร
2.5 จาก 5
16 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ศัลยกรรมตกแต่งความงาม เสริมความงาม ฟรี Wi-fi ล่ามแปลภาษา โทรศัพท์
เดอะซิบส์ คลินิก เป็นคลินิกที่ให้บริการรักษา และให้คำปรึกษาด้านผิวหน้า ผิวพรรณ ผม และการศัลยกรรมตกแต่งที่ทันสมัยและครบวงจร เช่นศัลยกรรมความงาม, การเสริมจมูก,การร้อยไหมทอง, การทำเลเซอร์ และ การเสริมคาง เป็นต้น โดยมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านศัลยกรรมตกแต่ง และเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกอบรม และผ่านการร... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
เสริมหน้าอก
ราคา ฿129,975 - ฿149,972
บางกอกสไมล์ แอสเทอธิกส์คลินิก
บางกอกสไมล์ แอสเทอธิกส์คลินิก
บางกอกสไมล์ แอสเทอธิกส์คลินิก
บางกอกสไมล์ แอสเทอธิกส์คลินิก
บางกอกสไมล์ แอสเทอธิกส์คลินิก
Mordee วัฒนา, กรุงเทพมหานคร
4.73 จาก 5
93 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ศัลยกรรมตกแต่งความงาม โรคติดเชื้อ เสริมความงาม ร้านกาแฟ ฟรี Wi-fi ที่จอดรถ
บางกอกสไมล์ แอสเทอธิกส์ คลินิก ตั้งอยู่บนชั้นที่ 10 ของตึกเมดเอเชีย เฮลธ์แคร์คอมเพล็กซ์ อยู่ห่างจากสถานีบีทีเอสนานา เพียงไม่กี่นาที เป็นคลินิกศัลยกรรมความงามในเครือบางกอกสไมล์ เด็นทัล กรุ๊ป และเป็นคลินิกทำฟันที่ได้มาตรฐานระดับโลก รายแรกในประเทศไทย ให้บริการในด้านศัลยกรรมความงามแบบครบวงจร มีความมุ... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
เสริมหน้าอก
ราคา ฿107,980 - ฿144,973

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ เสริมหน้าอก ใน วัฒนา, กรุงเทพมหานคร

การศัลยกรรมเสริมหน้าอกหรือเรียกอีกชื่อว่า “ทำนม” เป็นการทำให้หน้าอกมีขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยทำให้ผู้หญิงมีรูปร่างและดูมีทรวดทรงมากขึ้นทั้งยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและเสริม บุคลิกภาพ ให้ดูดีขึ้น การเสริมหน้าอกสามารถช่วยเพิ่มขนาด ลดความหย่อนคล้อยของเต้านมหลังจากการคลอดและให้นมบุตร แก้ไขขนาดของเต้านมที่ไม่เท่ากัน แก้ไขรูปทรงของเต้านมที่ผิดปกติที่อาจเป็นมาแต่กำเนิดหรือเกิดจากการผ่าตัด

ศัลยกรรมหน้าอก เป็นศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานซึ่งเป็นการทำศัลยกรรมเพื่อเพิ่มขนาดหน้าอกให้ใหญ่ขึ้นกว่าขนาดเดิมที่มีอยู่เพื่อเสริมความมั่นใจให้กับสรีระของผู้หญิง ซึ่งปัจจุบันนี้การทำศัลยกรรมหน้าอกได้กลายเป็นการศัลยกรรมที่นิยมอยู่ทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย ซึ่งในประเทศไทยมีโรงพยาบาลและคลินิกที่รับทำศัลยกรรมหน้าอกอยู่หลายแห่งด้วยกัน

การศัลยกรรมหน้าอก หรือการทำนม เป็นการทำศัลยกรรมที่ไม่มีใครไม่รู้จัก สาวๆ ที่ต้องการอัพไซส์หน้าอกตัวเองให้อึ๋มกว่าเดิมก็ต้องเก็บเงินมาทำนมกันแน่นอน เพราะการทำนมจะทำให้สัดส่วนดูงดงามน่ามองมากขึ้นยังเสริมความมั่นใจแบบสุดๆให้กับสาวๆหลายคนได้แบบไม่ต้องสงสัย แต่สาวๆบางคนยังคิดว่าทำนมทั้งทีก็ขออัพไซส์ให้ใหญ่ๆไปเลยจะได้คุ้มกับเงินที่จ่ายไป โดยไม่ได้ศึกษามาก่อนว่าขนาดหน้าอกเหมาะสมกับตัวเองหรือเปล่า ดังนั้น ก่อนการทำนมจะต้องศึกษารายละเอียดให้ดีก่อน ซึ่งเรามีข้อมูลดีๆมาให้ได้อ่านกัน

ทำนมทรงไหนดี

การทำนมจะใช้ซิลิโคนใส่เข้าไปตรงบริเวณช่วงอกเพื่อให้หน้าอกมีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งซิลิโคนมาตรฐานจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ทรงคือ ทรงกลมและทรงหยดน้ำ ซิลิโคนทั้งสองทรงแตกต่างกันอย่างไร มาดูกันเลย

  • ซิลิโคนทรงกลม (Round Breast Implant)

เป็นซิลิโคนแบบที่มาใช้ทำนมกันเป็นเวลานาน ปัจจุบันก็ยังนิยมใช้ซิลิโคนในการทำนมกันอย่างแพร่หลาย โดยที่ซิลิโคนทรงกลมจะมีความนุ่ม และมีขอบโค้งมนสวยเข้ารูป จึงทำให้สัดส่วนของเต้านมหลังทำศัลยกรรมดูเป็นธรรมชาติรวม นอกจากนี้ยังมีขนาดและความพุ่งของซิลิโคนให้เลือกหลากหลายเพื่อให้เหมาะสมกับหน้าอกของเรา เพื่อให้สรีรดูออกมาสมส่วน และสวยงาม

จุดเด่นของซิลิโคนทรงกลมคือ ซิลิโคนทรงกลมจะมีความนุ่มและยืดหยุ่นมากกว่า ทำให้ความรู้สึกเมื่อสัมผัสบริเวณเต้านมที่เสริมด้วยซิลิโคนทรงกลมนั้นจะนิ่ม และดูเป็นธรรมชาติกว่า เพราะว่าภายในซิลโคนทรงกลมจะมีเจลที่เหลวกว่าทรงหยดน้ำ จึงทำให้เวลาที่เราอยู่ในท่ายืนหรือนั่งเจลภายในซิลิโคนทรงกลมจะไหลลงไปบริเวณส่วนล่างมากกว่าทำให้มีลักษณะคล้ายทรงหยดน้ำในท่านั่งและท่ายืนและจะกลับคืนตัวในท่านอนหรือท่าอื่นๆโดยเฉพาะในท่านอนจะแบนลงและไหลลงไปด้านข้างซึ่งหมายความว่าจะเลียนแบบธรรมชาติในทุกๆ ท่วงท่าของร่างกายคนเรา 

ผิวสัมผัสของซิลิโคนทรงกลมสามารถเลือกได้ทั้งแบบผิวเรียบ (Smooth) และผิวหยาบ (Texture)โดยแบบผิวเรียบจะใช้ในกรณีที่เนื้อหน้าอกบางมากๆเวลาที่ใช้ซิลิโคนผิวทรายเสริมอาจจะมองเห็นเป็นคลื่นได้

  • ซิลิโคนทรงหยดน้ำ (Teardrop Breast Implant)

ซิลิโคนทรงหยดน้ำถูกออกแบบมา เพื่อให้หน้าอกคงรูปในลักษณะของหยดน้ำ โดยมีส่วนล่างที่พุ่งและมนกลม และส่วนบนจะแบน เพื่อจะให้เลียนแบบลักษณะของเต้านมตามธรรมชาติในท่านั่งและท่ายืน โดยซิลิโคนเจลภายในจะค่อนข้างแข็งกว่าซิลิโคนทรงกลม แต่มีความคงรูปมากกว่า และไม่ค่อยยืดหยุ่น ซึ่งเมื่อจับและสัมผัสแล้วจะรู้สึกถึงซิลิโคนได้มากกว่า โดยเฉพาะในกรณีคนที่เสริมหน้าอกมีผิวบางหรือผู้หญิงที่มีรูปร่างผอม

  • แล้วซิลิโคนทรงกลม VS ซิลิโคนทรงหยดน้ำ แบบไหนดีกว่ากัน?

เมื่อผู้หญิงหลายๆคนตัดสินใจทำนมแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือการเลือกซิลิโคนที่เหมาะสมกับตัวเอง แต่หลายๆคนก้ยังคงตัดสินใจไม่ได้ว่า จะเลือกซิลิโคนทรงไหนดี ระหว่างซิลิโคนทรงกลมและซิลิโคนทรงหยดน้ำ เพราะดูเผินๆก็น่าจะคล้ายกัน แต่จริงๆแล้วซิลิโคนทั้งสองทรง เมื่อนำไปทำนมแล้ว กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันเล็กน้อย ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

ซิลิโคนทรงกลมนั้นเหมาะกับผู้หญิงที่ต้องการมีหน้าอกที่สวยได้รูป เพื่อความอึ๋มแบบที่สุด เพราะซิลิโคนจะมีรูปร่างกลมและเติมเต็มส่วนบนของเต้านม หรือเหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีเนื้อเต้านมอยู่บ้างแล้วรวมถึงสาวๆ ที่ต้องการแก้ไขความบกพร่องของเนื้อเยื่อเต้านมส่วนบนและเต้านมมีลักษณะหย่อนคล้อยเพียงเล็กน้อย เพราะซิลิโคนทรงกลมจะทำให้หน้าอกดูอึ๋ม อวบอั๋นมากขึ้น 

ส่วนซิลิโคนทรงหยดน้ำจะเหมาะกับผู้หญิงที่มีฐานหน้าอกอยู่บ้าง แต่มีขนาดไม่ใหญ่ เพราะถ้าใส่ซิลิโคนทรงกลมเข้าไปจะทำให้หน้าอกดูไม่เป็นธรรมชาติ เพราะสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าไปทำนมมา  ดังนั้นการใส่ซิลิโคนทรงหยดน้ำจะทำให้หน้าอกดูเป็นธรรมชาติกว่า

สำหรับถุงซิลิโคนแบบน้ำเกลือ มีด้วยกัน 3 ประเภท คือ
1. แบบสเปคตัม มักก่อให้เกิด การรั่วซึม หรือเกิดถุงแฟบได้ เป็นแบบที่ สามารถ เติมน้ำเกลือ เพิ่มขณะทำ การศัลยกรรม ให้ใหญ่ ขึ้นได้
2. แบบเจล มีความเป็น ธรรมชาติ มากกว่า น้ำเกลือ มีทั้งแบบ ผิวทราย และแบบ ผิวเรียบ
3. แบบถุง เบคเกอร์ เป็นการ ผสมผสาน ระหว่าง ถุงซิลิโคนเจล และถุงน้ำเกลือ ซึ่งมีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบน้ำเกลือ 75% กับแบบเจล 25% และ แบบน้ำเกลือ 50% กับแบบเจล 50%

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

การทำศัลยกรรมหน้าอกมีกี่แบบ ทำแบบไหนดี

ตำแหน่งการผ่าตัดสำหรับทำนมในปัจจุบันจะมี 3 ตำแหน่ง ได้แก่ การผ่าตัดใต้ราวนม การผ่าตัดบริเวณรอบปานนม และการผ่าตัดใต้รักแร้

  1. การผ่าตัดใต้ราวนม 

เป็นการผ่าตัดที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะฟื้นตัวเร็ว มีอาการบวมน้อย และไม่เสียเลือดมาก เมื่อผ่าตัดเสร็จแล้วแผลจะอยู่ใต้ราวนม และดูจากภายนอกไม่ออก แต่ข้อเสียของการผ่าตัดใต้ราวนมคือ มีโอกาสเกิดแผลเป็นที่ใต้ราวนม หรือแผลเป็นนูน หรือมีโอกาสเป็นคีลอยด์ ( Keloid ) แต่โอกาสที่จะเป็นแผลนูนนั้นน้อยมาก

  1. แผลรอบปานนม ( Periareolar incision )

การผ่าตัดประเภทนี้จะทำให้หน้าอกไม่มีแผลเป็นเพราะรอยแผลอยู่บริเวณปานนม เมื่อมองแบบผิวเผินก็ดูไม่รู้ แต่ข้อเสียของการผ่าตัดแบบแผลรอบปานนมก็คือ จะทำให้ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดทำนม อาจจะมีโอกาสเกิดอาการชาที่หัวนมจะสูงกว่าการผ่าตัดแบบอื่น และมีโอกาสที่จะต้องผ่าตัดเนื้อเต้านมออก เพราะว่าในเนื้อเต้านมมักมีแบคทีเรียอาศัยอยู่ทำให้โอกาสเกิดติดเชื้อ และพังผืดรัดถุงซิลิโคนสูง

  1. การผ่าตัดใต้รักแร้

การผ่าตัดใต้รักแร้นั้นก็เป็นที่นิยมเช่นเดียวกัน เพราะสามารถซ่อนแผลไว้ใต้รักแร้ซึงเป็นจุดที่ไม่มีใครสังเกตได้ หน้าอกที่ผ่านการผ่าตัดใต้รักแร้จะมีความเป็นธรรมชาติสูง ข้อเสียของการผ่าตัดใต้รักแร้คือ เสียเลือดมากกว่าการผ่าตัดแบบอื่นๆ ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดอันตรายได้ และหลังผ่าตัดจะรู้สึกเจ็บและบวมมาก และมีอาการช้ำมากกว่าการผ่าตัดแบบอื่น  

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

1. การเสริมหน้าอกถือเป็นการผ่าตัดใหญ่ ซึ่งในขั้นตอนการทำจะมีการวางยาสลบและให้ยาชา ดังนั้น ควรตรวจเช็คว่าเราแพ้ยาสลบหรือยาชาหรือไม่
2. หลังจากการทำการผ่าตัดอาจมีอาการตึงๆที่แผลและรู้สึกเจ็บแต่ทนได้และสามารถตัดไหมได้ภายใน 7 วัน
3. อาการบวมบริเวณแผลจะอยู่ประมาณ 1 เดือน จึงจะยุบเข้าที่
4. แผลสามารถจางหายได้ในเวลาประมาณ 3 – 6 เดือนโดยไม่มีอันตรายและไม่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งแต่อย่างใด

หลังจากทำนม จะต้องนอนพักค้างคืนหรือเปล่า เป็นคำถามที่ผู้หญิงหลายๆคนอาจจะสงสัยกันอยู่มาก ซึ่งการทำศัลยกรรมหน้าอกในปัจจุบัน จะมีเทคนิคและวิธีการที่พัฒนามากขึ้น จึงทำให้การทำศัลยกรรมหน้าอกจึงเป็นการทำศัลยกรรมที่ไม่จำเป็นต้องนอนฟักฟื้นค้างคืน เพราะด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่พัฒนากว่าเมื่อก่อน จึงทำให้เกิดอาการบาดเจ็บน้อยกว่าเมื่อก่อนมาก โดยเฉพาะในคนไข้บางรายที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและเตรียมพร้อมก่อนการผ่าตัดมาเป็นอย่างดี เมื่อทำนมเสร็จแล้ว ก็สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้เลย แต่บางรายอาจต้องนอนพักฟื้นที่คลินิกหรือโรงพยาบาลซัก 2-3 ชั่วโมง ก็สามารถกลับไปฟักฟื้นต่อที่บ้านได้ โดยไม่จำเป็นต้องค้างคืนแต่อย่างใด หรือถ้าคนไข้ต้องการจะนอนพักค้างคืน ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับห้องพักผู้ป่วยเพิ่มเติม โดยการพักฟื้นที่ดรงพยาบาลหรือคลินิกนั้นขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคนไข้ว่าพร้อมแค่ไหน แต่สิ่งสำคัญกว่าการนอนพักฟื้นคือการดูแลร่างกายให้แข็งแรงก่อนเข้ารับการเสริมหน้าอก และเลือกสถานประกอบการที่ได้มาตรฐาน สำคัญที่สุดคือต้องเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และไว้ใจได้

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

1. ระมัดระวังไม่ให้แผลผ่าตัดโดนน้ำในช่วง 7 วันแรก
2. ห้ามยกของหนัก ๆ ประมาณ 1 เดือน
3. นวดเต้านม เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันพังผืดที่อาจเกิดขึ้นและยึดเกาะกับซิลิโคนที่ใช้เสริมหน้าอก
4. ควรสวมใส่ชุดชั้นในแบบสปอร์ตบรา ที่ไม่มีเหล็กดันโครง
5. หากมีอาการผิดปกติให้กลับมาพบแพทย์ และควรหมั่นตรวจเช็คเต้านมเป็นประจำ

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

เมื่อคนไข้เข้ารับการศัลยกรรมหน้าอกแล้วพบว่ามีอัตราประสบความสำเร็จสูง สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติได้ทันทีหลังการผ่าตัด แต่จะต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษในช่วงแรกๆ เพื่อไม่ให้กระทบกับแผลผ่าตัด แต่ก็สามารถพบผลข้างเคียงจากการทำศัลยกรรมได้เช่นกัน ซึ่งผลข้างเคียงและปัญหาหลังการทำศัลยกรรมหน้าอกที่พบเจอได้บ่อย โดยสามารถแบ่งได้เป็นปัญหาระยะสั้นและระยะยาว

  • ปัญหาระยะสั้น อาจเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นหลังจากการผ่าตัดเสริมหน้าอกหรือเกิดปัญหาจากซิลิโคนที่นำมาเสริมหน้าอก ซึ่งพบว่าหลังจากทำนมแล้วมีผู้ประสบกับภาวะแทรกซ้อนถึงร้อยละ 28 จนต้องผ่าตัดแก้ไขหน้าอกโดยแพทย์ผู้ชำนาญ เช่น ซิลิโคนเหลวรั่ว นมและหัวนมสองข้างระดับไม่เท่ากัน นมและหัวนมบิดเบี้ยว ซิลิโคนอยู่ผิดที่ คลำถุงซิลิโคนได้ชัด ถุงซิลิโคนโป่งผิดที่ ผิวหนังเต้านมไม่เรียบ ดูไม่เป็นธรรมชาติ ห้อเลือด มีเลือดคั่ง ผิวหนังเต้านมตาย ถุงซิลิโคนทะลุ ติดเชื้อที่เต้านม ติดเชื้อที่ผิวหนัง เจ็บชาหัวนม มีแผลเป็นขนาดใหญ่ พังผืดหดรัดตัว เมื่อเต้านมของคุณมีปัญหาดังกล่าวให้พบศัลยแพทย์ทันที เพื่อทำการวินิจฉัยและแก้ไขหน้าอก เพื่อไม่ให้เกิดเป็นปัญหาระยะยาวในภายหลัง

  • ปัญหาระยะยาว เช่น เกิดพังผืดรอบเต้านมซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุดหลังการทำนม โดยที่พังผืดรอบหน้าอกเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายรับรู้ว่าซิลิโคนคือสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย และร่างกายจึงได้จึสร้างพังพืดเข้ามาล้อมซิลิโคนเพื่อไม่ให้ร่างสัมผัสกับสิ่งแปลกปลอม ซึ่งแบ่งอาการเป็น 4 ระยะ คือ ระยะแรก อาจไม่รู้สึกถึงความผิดปกติ เต้านมยังคงนุ่ม ดูธรรมชาติ ถ้าเกิดอาหารในระยะแรกก้ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ระยะที่ 2 คือหน้าอกอาจมีความแข็งขึ้นเล็กน้อย แต่ยังดูไม่ออกว่ามีความผิดปกติ ระยะที่ 3 เป็นที่จะสังเกตเห็นความผิดปกติได้อย่างชัดเจน เช่น เต้านมอาจมีรอยเบี้ยว หรือมีรูปร่างผิดปกติ และเมื่อสัมผัสจะรู้สึกว่าเต้านมเริ่มแข็งขึ้นกว่าปกติ และระยะที่ 4 คือจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเต้านมผิดรูป โดยที่ทั้งสองข้างอาจมีขนาดไม่เท่ากัน หัวนมชี้ผิดทิศทาง และมีความแข็งขึ้นชัดเจน หากเป็นพังพืดในระยะที่ 3 และ 4 จะต้องทำการผ่าตัดแก้ไขเต้านมเพื่อไม่ให้พังผืดรัดตัวกันไปมากกว่านี้ 

วิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวสามารถทำได้โดยการดูแลตัวเองหลังผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกให้ดี ทำตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัด และหมั่นนวดคลึงเต้านมตามที่ศัลยแพทย์แนะนำ เพื่อลดโอกาสในการเกิดปัญหาของหน้าอกหลังการผ่าตัดในระยะยาว เช่น ปัญหาพังผืดรัดเต้านม เป้นต้น

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเขตวัฒนา

เขตวัฒนา เป็นหนึ่งในห้าสิบเขตของกรุงเทพมหานคร เป็นเขตศูนย์กลางทางธุรกิจ การค้า การบริการ และการทูต ตั้งอยู่ในพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ นับว่าเป็นเขตที่มีการเจริญเติบโตและการขยายตัวของสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างรวดเร็ว มีการคมนาคมและระบบขนส่งมวลชนที่สะดวกทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน เรือโดยสารและรถโดยสาร โดยมีถนนสุขุมวิท ถนนอโศกมนตรี ถนนทองหล่อ ถนนเอกมัย และถนนปรีดีพนมยงค์ เป็นถนนสายหลักเชื่อมโยงแหล่งธุรกิจพาณิชยกรรมในพื้นที่ นอกจากนี้ก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานคร มีร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง รวมถึงสถานพยาบาลและคลินิกเสริมความงามต่าง ๆที่เป็นที่นิยมและรู้จักเป็นอย่างดีของทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เช่น โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ บางกอกสไมล์ คลินิกทันตกรรม โรงพยาบาลสุขุมวิท เป็นต้น

สถานที่ยอดนิยมในเขตวัฒนา

วัดธาตุทอง ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา วัดธาตุทองแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ซึ่งปัจจุบันยังคงเป็นวัดที่มีความสำคัญต่อพระบรมวงศานุวงศ์ไทยหลายพระองค์ และสามารถเดินทางมาได้อย่างง่ายดายเพราะเป็นวัดที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าเอกมัย สามารถเข้าไปไหว้พระทำบุญได้ทุกวันตั้งแต่ 6.00-17.00 น. 
ซอยคาวบอย เป็นย่านสถานบันเทิงยามค่ำคืนในกรุงเทพมหานคร เป็นซอยสั้นๆ ประกอบไปด้วยบาร์ต่าง ๆ กว่า 40 บาร์ การบริการเน้นไปที่ลูกค้านักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองไทย บาร์เกือบทั้งหมดในซอยคาวบอยจะเป็นรูปแบบบาร์อะโกโก้ สามารถเดินทางมาด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอโศก และรถไฟฟ้า สถานีสุขุมวิท ใกล้กับโรงแรมแกรนด์มิลเลนเนียม
พิพิธภัณฑ์เรือนคำเที่ยงหรือ พิพิธภัณฑ์บ้านคำเที่ยง เป็นเรือนเครื่องสับแบบล้านนาไทยดั้งเดิมหรือที่รู้จักกันว่า "เรือนกาแล" เป็นเรือนเก่าแก่อายุร้อยกว่าปี จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้และศิลปวัตถุของชาวล้านนาตามวิถีชุมชนเกษตรกรรมในชนบทเมื่อครั้งอดีต ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 21 ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสถานีอโศก

การเดินทางในเขตวัฒนา

มีตัวเลือกที่หลากหลายในการสัญจรภายในเขตวัฒนา ทั้งโดยทางรถยนต์เพียงแต่ว่าจะมีความหนาแน่นในช่วงเวลาเร่งด่วนเช่นในตอนเช้ากับช่วงหัวค่ำ, รถไฟฟ้าบีทีเอสสายสุขุมวิท สถานีเอกมัย-สถานีทองหล่อ-สถานีพระโขนง-สถานีอโศกและสถานีพร้อมพงษ์ของรถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา สถานีสุขุมวิทของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล, รถเมล์, วินมอเตอร์ไซค์ เป็นต้น ทั้งนี้ยังเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้ในจุดที่ใช้บริการทางพิเศษได้ง่ายอีกด้วย

ประชากรหรือผู้คนในเขตวัฒนา

ประชากรหรือผู้คนส่วนใหญ่ในเขตวัฒนามีฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมระดับปานกลางถึงระดับสูง มีการผสมผสานกันในด้านเชื้อชาติและวัฒนธรรมเพราะในอดีตหลังจากมีการตัดถนนการคมนาคมที่สะดวกขึ้น ราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีกลุ่มนายทุนเข้ามาซื้อที่ดินและอพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามา ทำให้มีการผสานชุมชนดั้งเดิมในพื้นที่ที่อาศัยอยู่ร่วมกับผู้ที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาใหม่ตามแนวความเจริญของถนนสายหลัก 

สภาพภูมิอากาศในเขตวัฒนา

สภาพอากาศทั่วไปในกรุงเทพมหานครจะไม่แตกต่างกันมากนัก มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น มีอากาศร้อนทั้งปีและยังมีอุณหภูมิที่หลากหลายอีกด้วย มี 3 ฤดูกาลที่แตกต่างกัน ได้แก่ ฤดูร้อนจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน, ฤดูฝน จะอยู่ในช่วงราว ๆ กรกฎาคมจนถึงตุลาคม และช่วงที่มีอากาศเย็นจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม