สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การตัดกระเพาะอาหาร ใน กรุงเทพมหานคร
กระเพาะอาหาร (stomach) เป็นระบบย่อยอาหาร ทำหน้าที่ย่อยสลาย สารอาหารที่มีโมเลกุล ขนาดใหญ่ให้เล็กลง เพื่อให้ง่ายต่อการดูดซึม ที่ลำไส้เล็ก แต่เมื่อไร ที่ผู้ป่วยมีอาการเจ็บป่วย ตรงกระเพาะอาหาร หรือเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร และทำการรักษา ด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล แพทย์ก็อาจจะแนะนำ วิธีการผ่าตัด กระเพาะอาหารออกทั้งหมด
การตัดกระเพาะอาหาร (Gastrectomy) จะใช้สำหรับกรณีที่ผู้ป่วยมีก้อนมะเร็ง อยู่ตรงบริเวณกระเพาะอาหาร และมะเร็งก็เริ่มมีการลุกลาม เป็นบริเวณกว้าง หรือทั้งกระเพาะอาหาร รวมไปถึงการเลาะ ต่อมน้ำเหลืองออกด้วย
การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?
การผ่าตัดกระเพาะอาหาร แบบส่องกล้องทางหน้าท้อง จะได้รับความนิยมมาก เนื่องจากแผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก การฟื้นตัวเร็ว โดยในการผ่าตัดแพทย์ จะมีการฉีดยาชา และวางยาสลบ เพื่อไม่ให้เกิดการเจ็บปวด ในขณะที่ทำการผ่าตัด และจะตัดกระเพาะอาหารทั้งหมด รวมไปถึงการ ผ่าตัดเลาะเอาต่อมน้ำเหลือง ตรงบริเวณรอบ ๆ หลังการผ่าตัดจะรักษาเสริมด้วย ยาเคมีบำบัด เพื่อลดการกลับมาเป็นซ้ำ ของมะเร็ง
ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?
หลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร จะย้ายผู้ป่วยเพื่อสังเกตอาการ ในห้องพักฟื้นประมาณ 2-3 ชั่วโมง หลังจากนั้น ก็จะย้ายไปพักฟื้นต่อที่ห้องผู้ป่วย และจะต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลังจากแพทย์อนุญาต ให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ จะมีการนัดหมาย เพื่อติดตามอาการอีก ประมาณ 2-3 สัปดาห์
สำหรับระยะเวลาในการฟื้นตัว ของแต่ละคนนั้น ย่อมแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพความแข็งแรง ของร่างกาย และวิธีในการผ่าตัด แต่โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยสามารถที่จะกลับไป ใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไปทำงาน และออกกำลังกายได้ภายใน 1-3 เดือน ร่างการอาจต้องใช้เวลา 4-6 เดือนเพื่อปรับตัว กับการที่ไม่มีกระเพาะอาหาร
การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?
หลังการผ่าตัดกระเพาะอาหาร ควรปฏิบัติตัว ดังนี้
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย มีขนาดเล็ก ไม่กินอาหารรสจัด เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก เป็นต้น
- เพิ่มมื้ออาหารเป็น 5-6 มื้อต่อวัน และในแต่ละมื้อไม่กินเยอะเกินไป ใช้วิธีแบ่งเป็นมื้อย่อย ๆ หลาย ๆ มื้อ
- เคี้ยวอาหารให้นานขึ้น ละเอียดก่อนกลืนทุกครั้ง
- หากทานอาหารแล้วรู้สึกแน่น จุก เสียด ให้หยุดทานทันที
- ห้ามดื่มน้ำขณะทานอาหาร
- งดดื่มน้ำ 30 นาที ก่อนและหลังอาหาร เพราะน้ำจะทำให้อาหารผ่านลงไป ในลำไส้เร็วเกินไป
- เพื่อให้ลำไส้เกิดความเคยชิน กับการทานอาหารโดยไม่มี กระเพาะอาหาร จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารเหลว แต่ควรเลือกเป็นอาหารแข็ง นำไปต้ม นึ่ง เช่น เนื้อสัตว์ที่เคี้ยวง่าย เช่น ไก่ ปลา เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการทานคาร์โบไฮเดรต (แป้งและน้ำตาล) มากเกินไป ควรเลือกทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ขนมปังโฮลวีต ลูกเดือย ถั่วต่าง ๆ ต้มให้นิ่ม ๆ
- กินผักผลไม้ ที่มีกากใยอาหาร เช่น ฝรั่ง ชมพู่ แอปเปิล เป็นต้น
- ระยะแรก ๆ ให้หลีกเลี่ยงอาหารประเภทไขมัน จะทำให้ย่อยยาก คลื่นไส้ หรือท้องอืดได้
- หมั่นออกกำลังกายตามความเหมาะสม และพักผ่อนให้เพียงพอ
- ไปพบแพทย์เพื่อติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง
มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?
การตัดกระเพาะอาหาร มีอัตราความสำเร็จสูง และมีอัตราการเสียชีวิตภายใน 24 ชั่วโมง เท่ากับศูนย์ อย่างไรก็ตาม กระบวนการผ่าตัด ดังกล่าว ค่อนข้างมีความเสี่ยง และผลข้างเคียงสูง อาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อน หลังการผ่าตัดได้ เช่น กรดไหลย้อน แผลติดเชื้อ หรือแผลมีเลือดออก เป็นต้น
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับกรุงเทพมหานคร
คงเป็นที่ทราบกันดีว่ากรุงเทพมหานคร เป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในระดับ ประชาคมอาเซียน จุดเด่นของกรุงเทพฯ นอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีศาสนสถานที่สวยงาม, อาหารริมทาง หรือ street food, การคมนาคมที่สะดวกสบาย, ห้างสรรพสินค้า, ตลาด รวมถึงยังมีสถานพยาบาลชั้นนำต่าง ๆ ที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ, คลินิก, และโรงพยาบาลเอกชนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล JCI (Joint Commission International Accreditation) ทำให้กรุงเทพฯนอกจากจะเป็นจังหวัดที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นที่สุด เป็นจังหวัดที่มีคนเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุด ยังมีแนวโน้มในการขยายตัวกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอีกด้วย ซึ่งโรงพยาบาลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ คือ โรงพยาบาลศิครินทร์ โรงพยาบาลกมล เป็นต้น ซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางมาทำศัลยกรรมความงามเป็นจำนวนมากในแต่ละปี
สถานที่ยอดนิยมในกรุงเทพมหานคร
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือที่รู้จักกันในนาม วัดพระแก้ว เป็นวัดที่ รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น พร้อม ๆ กับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ ในเขตพระบรมมหาราชวัง หากใครได้มาเที่ยวกรุงเทพฯ ก็ตามจะต้องแวะไปกราบ พระแก้วมรกต สักครั้งเพื่อความเป็นสิริมงคล
วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยอยุธยา พระปรางค์วัดอรุณฯ นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่รู้จักกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นถ้ามาถึงกรุงเทพฯ ก็คงต้องแวะมาชมความสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณฯ เช่นเดียวกัน
เยาวราช นับเป็นอีกย่านที่น่าเที่ยว เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งชุมชนของชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนแล้ว ยังจัดว่าเป็นย่านธุรกิจ และคึกคักตลอดทั้งวัน ในปัจจุบันคนจะนิยมมาเที่ยวเยาวราชกันช่วงกลางคืน เพราะจะมีสตรีทฟู้ดร้านเด็ดมากมายที่น่าไปลิ้มลองชิมดูสักครั้ง
นอกเหนือจากนี้ ยังมีสถานที่อื่น ๆที่เป็นที่นิยมที่ไม่ควรพลาด เช่น สยามสแควร์, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร, เอเชียทีค เป็นต้น
การเดินทางในกรุงเทพมหานคร
การคมนาคมในกรุงเทพฯ ถือว่ามีความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ทั้งทางบก ทางอากาศ ทางน้ำ และยังมีระบบขนส่งสาธรารณะที่ได้มาตรฐานและทันสมัย การเดินทางและการท่องเที่ยวจึงทำได้ง่ายแม้ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว เช่น รถแท็กซี่ รถเมล์ รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก รถไฟ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน และ เรือโดยสาร เป็นต้น
ประชากรหรือผู้คนในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย มีหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งยังมีประชาชนจากต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงาน รวมถึงยังมีชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก ทำให้คนกรุงเทพฯอาจมีวิถีชีวิตที่เร่งรีบมากกว่าส่วนอื่นในประเทศไทย
สภาพภูมิอากาศในกรุงเทพมหานคร
กรุงเทพฯ มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น โดยอยู่ภายใต้ อิทธิพลของลมมรสุม 2 ชนิด คือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ มีอากาศร้อนทั้งปีและยังมีอุณหภูมิที่หลากหลายอีกด้วย มี 3 ฤดูกาลที่แตกต่างกัน ได้แก่ ฤดูร้อนจะเป็นช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน, ฤดูฝน จะอยู่ในช่วงราว ๆ กรกฎาคมจนถึงตุลาคม และช่วงที่มีอากาศเย็นจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนและเดือนธันวาคม
อื่นๆ
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในกรุงเทพฯ กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลที่ว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย มีความเจริญก้าวหน้าในเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้น จึงมีโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐานระดับโลก และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มากมาย ที่จบมาจากต่างประเทศ มีประการณ์ที่ยาวนาน ทำให้มีนักท่องเที่ยวหรือผู้คนในประเทศไทยเองเดินทางเข้ามาทำการรักษา หรือทำศัลยกรรมกับโรงพยาบาลและคลีนิคต่างๆในกรุงเทพฯ เป็นอย่างมากนั่นเอง