Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

Dollars sign จองกับเราไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ค้นหาจากแผนที่

คลินิก / ร้าน อื่นๆ ที่มี การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่

โรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพ
โรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพ
โรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพ
โรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพ
โรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพ
Mordee ดุสิต, กรุงเทพมหานคร
3.85 จาก 5
85 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สูตินรีเวช รังสีวินิจฉัย เวชศาสตร์ทั่วไป รถรับ-ส่ง ที่สนามบิน ที่พักสำหรับครอบครัว บริการจองตั๋วเครื่องบิน
โรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพ หรือที่รู้จักกันในชื่อโรงพยาบาลมิชชั่น เป็นโรงพยาบาลทั่วไปที่ไม่แสวงหาผลกำไร จึงให้บริการผู้ป่วยในราคาที่ย่อมเยาว์ เมื่อเทียบกับโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่อื่น ๆ ในประเทศไทย ด้วยเหตุนี้โรงพยาบาลแห่งนี้ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวทางการแพทย์ นับพันคนที่เดินทางเข้ามาใช้บริการในแต่ละปี... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
สอบถามกับทางคลินิก

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ ใน ดุสิต, กรุงเทพมหานคร

การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ เป็นการตรวจหาความผิดปกติหรือการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ภายในลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ของผู้ป่วย เป็นวิธีการตรวจที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ในการประเมินปัญหาในลำไส้ใหญ่ ซึ่งกล้องที่ใช้เรียกว่า colonoscope มีลักษณะเป็นท่อขนาดเล็ก และ ยาว มีความยืดหยุ่น ที่ปลายท่อมีกล้องวิดีโอและดวงไฟขนาดเล็กติดอยู่ กล้องจะบันทึกภาพในลำไส้ใหญ่จะแล้วปรากฏบนจอโทรทัศน์ จะได้ภาพที่ตมชัด สามารถบันทึกได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากกว่าการทำเอกซเรย์

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

แพทย์จะฉีดยาคลายความกังวลเข้าทางเส้นเลือดดำ เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกง่วงและผ่อนคลาย และบางครั้งอาจมีการใช้ยาชาทั่วไป แพทย์จะทำการตรวจทวารหนักโดยการ ใส่นิ้วที่สวมถุงมือยางและทาเจลหล่อลื่นแล้ว ในช่องทวารหนักของผู้ป่วย แล้วจากนั้นแพทย์ จะสอดใส่กล้องส่องตรวจเข้าไปค่อย ๆ อย่างระมัดระวัง แล้วเลื่อนกล้องเข้าไปจนถึงส่วนต้นของลำไส้ใหญ่ ผู้ป่วยอาจมีความรู้สึกคล้ายปวดอุจจาระ ระหว่างที่กล้องอยู่ในลำไส้ใหญ่ แพทย์จะสามารถมองเห็นสภาพลำไส้ทั้งหมด ถ้าหากพบก้อนเนื้อที่น่าสงสัย แพทย์จะทำการตัดก้อนเนื้อนั้นเพื่อนำไปตรวจโรค

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

ภายหลังการตรวจลำไส้เสร็จแล้วผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ แต่ควรพักผ่อนอย่างน้อย 1 วัน ภายหลังจากการส่องกล้อง แล้วจึงสามารถกลับไปทำงานได้ในวันถัดไป ผู้ป่วยอาจรู้สึกมีแก๊สหรือท้องอืดท้องเฟ้อ ปวดมวนท้องเล็กน้อย หรืออาจเป็นตะคริว หลายชั่วโมง ผู้ป่วยอาจมีเลือดปนอุจจาระมาได้เล็กน้อย ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติ

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

ภายหลังการตรวจลำไส้ด้วยการส่องกล้องแล้ว ให้ผู้ป่วยพยามเดิน เพื่อลดอาการไม่สบายตัว เมื่อผายลมแล้วจะรู้สึกดีขึ้น สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติและออกกำลังกายได้ภายในสองสามวันหลังจากการตรวจ แต่ผู้ป่วยอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ยาบางอย่าง เช่น ยาเจือจางเลือด

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ มีอัตราความสำเร็จมากกว่า 90% ผลข้างเคียงและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ มีเลือดออกในลำไส้, มีอาการปวดท้องรุนแรง, หนาวสั่น, ไข้ และมีเลือดออกทางทวารหนักออกมามาก ควรรีบพบแพทย์ แต่อย่างไรก็ตามผลข้างเคียงและความเสี่ยงเหล่านี้ เป็นสิ่งที่พบได้ยากมาก

การบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy ) ดีไหม ?

การบำบัดและการล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ หรือ Colon Hydrotherapy เป็นการทำความสะอาดลำไส้หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่าการ “ดีท็อกซ์ลำไส้” ด้วยการใช้น้ำสะอาดเข้าไปบำบัด และล้างสารพิษที่ตกค้างในลำไส้ใหญ่  ซึ่งจะช่วยรักษาสมดุลให้ลำไส้ โดยการใช้เครื่องมือเฉพาะ ซึ่งสามารถปรับระดับ รวมไปถึงควบคุม อุณหภูมิและแรงดันน้ำให้เหมาะสมแก่การชำระล้างได้  ซึ่งอุณหภูมิที่ใช้กันในปกตินั่นจะอยู่ที่ 37.5 ถึง 38.5 องศา

ทั้งนี้ทั้งกระบวนการจะใช้น้ำประมาณ 24 ลิตร ด้วยระบบ Reverse Osmosis ทำให้น้ำที่ได้มีความบริสุทธิ์ และเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งเมื่อปล่อยน้ำเข้าสู่ร่างกายแล้ว น้ำจะเข้าไปชำระล้างสิ่งสกปรก เช่น กากอาหาร และสารพิษต่าง ๆ ที่ตกค้างในร่างกาย ถือเป็นการช่วยให้ลำไส้สุขภาพดี และมีความสะอาดมากขึ้น

ส่วนสาเหตุหลักจำเป็นต้องมีการบำบัดและล้างสารพิษนั่นก็เพราะ ของเสียในสำไส้ใหญ่นั้น ไม่สามารถถูกขับออกมาได้ทั้งหมด เนื่องจากลักษณะที่มีความยาว และขดเคี้ยวไปมา ทำให้เกิดการสะสมของสิ่งปฏิกูลไม่ว่าจะเป็น พยาธิ น้ำเมือก แบคทีเรีย กากอาหาร ที่สะสม จนส่งผลให้ส่งกลิ่นเหม็น รวมถึงเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค 

ใครบ้างที่เหมาะแก่การทำ การบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy)?

ในสังคมไทยปัจจุบันอาจจะมีบางคนที่กำลังประสบกับภาวะร่างกายมีปัญหาโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นหากมีอาการตามหัวข้อต่อไปนี้ ทุกท่านสามารถเข้าพบแพทย์ เพื่อขอคำปรึกษา และสามารถใช้บริการได้ทันที

  • มีอาการขับถ่ายยาก ขับถ่ายไม่เป็นเวลา และมีอาการท้องผูกบ่อย ๆ

  • มีผิวหน้าที่ไม่กระจ่างใส และอาจจะมีสิวเห่อขึ้น 

  • ผิวหนังไม่ชุมชื้นและแห้งเหี่ยว 

  • มีอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติ และอ่อนเพลียตลอดเวลา 

  • นอนหลับได้ยาก และรู้สึกง่วงซึมไม่สดใสหลังจากตื่นนอน 

  • ระบบเผาผลาญทำงานได้ไม่ปกติ สังเกตจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ

  • มีกลิ่นตัวแรง รวมถึงมีกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์ 

  • ปัสสาวะสงกลิ่นเหม็นฉุน 

ใครบ้างที่ไม่ควรทำ การบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy)?

โดยทั่วไปแล้วการทำหัตถการนี้ สามารถทำได้ในทุกคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป  ซึ่งในกรณีของผู้สูงอายุ และผู้มีปัญหาสุขภาพควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการทำหัตถการนี้ และหากมีอาการตามด้านล่างนี้ ควรจะหลีกเลี่ยงการทำหัตถการนี้ หรือรับการปรึกษาจาแพทย์อย่างใกล้ชิด ดังนี้

 

  • เด็ก และสตรีมีครรภ์

  • ผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีอาการไม่คงที่

  • ผู้ป่วยโรคความดันที่ยังไม่สามารถควบคุมอาการได้

  • ผู้สูงอายุที่มีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง 

  • ผู้ป่วยที่ภาวะช่องท้องอักเสบ (Peritonitis)

  • ผู้ป่วยที่มีแผลในลำไส้ใหญ่ และผู้ที่มีภาวะลำไส้ใหญ่อุดตันแบบ Complete Obstruction 

  • ผู้ป่วยที่มีภาวะไตวาย 

  • ผู้ป่วยที่ตรวจผลมะเร็งลำไส้ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการทำหัตถการเกี่ยวกับช่องท้อง

  • ผู้ที่เป็นริดดีดวงอักเสบ มีภาวะบวมแดง และถ่ายเป็นเลือด

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy)

ก่อนเข้ารับการรักษาด้วยวิธี Colon Hydrotherapy ควรงดรับประทานอาหารก่อนการเข้ารับบริการ อย่างนั้น 2 ชั่วโมง และในขณะที่ทำการสวนล้างลำไส้นั้นจะมีการปวดอุจจาระเป็นปกติ ตามจังหวะการปล่อยน้ำ ซึ่งหลังจากการบำบัดภายใน 15 ถึง 30 นาที อาจจะปวดอุจจาระอีกอย่างน้อย 1 ถึง 2 ครั้ง หากต้องใช้เวลาในการเดินทางกลับที่พัก หรือไปทำธุระที่อื่น ควรวางแผนเผื่อเวลาไว้เพื่อขับให้เรียบร้อย 
 

ผลลัพธ์ที่ดีหลังจากการทำ การบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy)

หลังจากการทำ Colon Hydrotherapy แล้วทุกคนจะสามารถเห็นผลได้ทันที ทั้งระบบขับถ่ายที่มีการทำงานที่ดีขึ้น ทำให้สารพิษในร่างกายลดลง ร่างกายดูสดใสขึ้น รวมไปถึงระบบภายในเช่น ระบบไหลเวียนโลหิต และการเต้นของหัวใจ และที่สำคัญคือทำให้มีสุขภาพจิตที่ดี สามารถผ่อคลายได้มากขึ้น

ผลข้างเคียงหลังจากการทำ การบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy)

หลังจากการบำบัดอาจจะมีอาการอ่อนเพลีย และง่วงนอนซึ่งเป็นอาการที่พบได้ปก รวมไปถึงการมีโอกาส ถ่ายต่อเนื่อง หรือไม่เลยหลังทำการบำบัดไป 1 วัน เนื่องจากร่างกายกำลังอยู่ในภาวะปรับตัว โดยแพทย์จะให้ Probiotic มารับประทาน เพื่อปรับสมดุลลำไส้

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

การบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy) เป็นการสวนล้างลำไส้ทางทวารหนักแบบระบบปิด ซึ่งสามารถช่วยลดกลิ่นอับ เพิ่มภูมิคุ้มกัน  ด้วยความปลอดภัยในระดับสูงภายใต้การดูแลของแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ  และส่งผลให้ระบบย่อยอาหาร รวมถึงการดูดซึมอาหารสามารถทำได้อย่างดีขึ้นอีกด้วย 

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

สำหรับการบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy) ไม่จำเป็นต้องทำการพักฟื้นหลังการเข้ารับหัตถการ อย่างไรก็ตามการดูแลตัวเองเช่น การออกกำลังกาย และทานของที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม ก็เป็นวิธีหนึ่งที่สามารถส่งผลควบคู่ไปกับการทำการบำบัด ก่อให้เกิดสุขภาพที่มีขึ้นได้   

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

หลังจากการเข้ารับ การบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy) นั้นอาจจะต้องระมัดระวังในเรื่องของอาการเพลียที่อาจจะทำให้เกิดอุบัติได้ แต่กระนั้นอาการดังกล่าวก็จะหายไปได้เองในเวลาไม่นาน รวมถึงควรทานอาหารรสอ่อน พร้อมดื่มเกลือแร่และน้ำขิง นอกเหนือจากนั้นก็ถือว่าเป็นการรักษาที่ค่อนข้างจะสะดวก และไม่จำเป็นต้องดูแลเรื่องใดเป็นพิเศษ 

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

การบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy) เป็นหัตถการที่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์และพยาบาลอย่างใกล้ชิด ดังนั้นจึงมีอัตราความสำเร็จที่สูงมาก และควรจะทำประมาณสัปดาห์ละ 1 ถึง 2 ครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประวัติของบุคคลและดุลพินิจของแพทย์อีกด้วย