Mordee

ส่วนลด โปรโมชัน และ ดีลพิเศษ ด้านทันตกรรมและความงาม

ซื้อคูปองส่วนลดเพื่อจองใช้บริการ จัดฟันสวย ฉีดโบท็อกซ์ เสริมความงาม และศัลยกรรมอื่น ๆ มากมายใกล้คุณ

ค้นหาจากแผนที่

คลินิก / ร้าน อื่นๆ ที่มี การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่

โรงพยาบาลศิครินทร์
โรงพยาบาลศิครินทร์
โรงพยาบาลศิครินทร์
โรงพยาบาลศิครินทร์
โรงพยาบาลศิครินทร์
Mordee บางนา, กรุงเทพมหานคร
4.38 จาก 5
286 รีวิว
2024 ภาษาอาหรับ ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ หู คอ จมูก ศัลยกรรมตกแต่งความงาม ผ่าตัดรักษาโรคอ้วน รถรับ-ส่ง ที่สนามบิน รับรองเอกสาร ที่พักสำหรับครอบครัว
โรงพยาบาลศิครินทร์ ได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2536 เป็นโรงพยาบาลที่มีความมุ่นมั่นในการให้ความสำคัญกับการรักษา และการบริการแก่ประชาชน เพื่อสร้างความไว้วางใจกับประชาชน อย่างแท้จริง นั่นเป็นเหตุผลหลักในการปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ และความเป็นมืออาชีพ โรงพยาบาลศิครินทร์ ให้บริการดูแลคนไข้ ระดับตติยภูมิ... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
สอบถามกับทางคลินิก
โรงพยาบาลไทยนครินทร์
โรงพยาบาลไทยนครินทร์
โรงพยาบาลไทยนครินทร์
โรงพยาบาลไทยนครินทร์
โรงพยาบาลไทยนครินทร์
Mordee บางนา, กรุงเทพมหานคร
3.48 จาก 5
115 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร จักษุวิทยา รักษาโรคหัวใจ รถรับ-ส่ง ที่สนามบิน ที่พักสำหรับครอบครัว ฟรี Wi-fi
โรงพยาบาลไทยนครินทร์ ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน 2536 ประกอบด้วยแผนกหลัก 6 แผนก ได้แก่ แผนกศัลยกรรม แผนกสูติ-นรีเวช แผนกอายุรกรรม แผนกกุมารเวชกรรม แผนกตา-หู-คอ-จมูก และ แผนกทันตกรรม ทั้งยังมีแผนกที่คอยไว้บริการ ได้แก่ แผนกติดต่อสอบถาม แผนกเวชระเบียน แผนกโภชนาการ แผนกรักษาความปล... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
สอบถามกับทางคลินิก
โรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพ
โรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพ
โรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพ
โรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพ
โรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพ
Mordee ดุสิต, กรุงเทพมหานคร
3.85 จาก 5
85 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สูตินรีเวช รังสีวินิจฉัย เวชศาสตร์ทั่วไป รถรับ-ส่ง ที่สนามบิน ที่พักสำหรับครอบครัว บริการจองตั๋วเครื่องบิน
โรงพยาบาลมิชชั่น กรุงเทพ หรือที่รู้จักกันในชื่อโรงพยาบาลมิชชั่น เป็นโรงพยาบาลทั่วไปที่ไม่แสวงหาผลกำไร จึงให้บริการผู้ป่วยในราคาที่ย่อมเยาว์ เมื่อเทียบกับโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่อื่น ๆ ในประเทศไทย ด้วยเหตุนี้โรงพยาบาลแห่งนี้ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวทางการแพทย์ นับพันคนที่เดินทางเข้ามาใช้บริการในแต่ละปี... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
สอบถามกับทางคลินิก
โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี
โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี
โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี
โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี
โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี
Mordee ธนบุรี, กรุงเทพมหานคร
3.16 จาก 5
79 รีวิว
2024 ภาษาอาหรับ ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ เวชศาสตร์ทั่วไป อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร เวชศาสตร์การนอนหลับ รถรับ-ส่ง ที่สนามบิน ที่พักสำหรับครอบครัว ฟรี Wi-fi
โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี ตั้งอยู่ในทำเลที่แวดล้อมไปด้วยการขยายตัวของเศรษฐกิจ โครงการที่อยู่อาศัย, ประชากร และเส้นทางคมนาคม ที่สะดวกในการเดินทาง โดยรถไฟฟ้าหลายสาย เช่น บีทีเอสสถานกรุงธนบุรี, และบีทีเอสวงเวียนใหญ่ โรงพยาบาลแห่งนี้ได้รับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 150 เตียง มีห้อ... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
สอบถามกับทางคลินิก
โรงพยาบาล เชียงใหม่ ราม
โรงพยาบาล เชียงใหม่ ราม
โรงพยาบาล เชียงใหม่ ราม
โรงพยาบาล เชียงใหม่ ราม
โรงพยาบาล เชียงใหม่ ราม
Mordee เมืองเชียงใหม่, เชียงใหม่
4.82 จาก 5
11 รีวิว
2024 ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย ทันตกรรม อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร สูตินรีเวช รถรับ-ส่ง ที่สนามบิน ฟรี Wi-fi การประสานงานด้านประกันสุขภาพ
โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม เป็นโรงพยาบาลเอกชน ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2534 มีเตียงผู้ป่วย 350 เตียง ตั้งอยู่บนตึกสูง 12 ชั้น โรงพยาบาลแห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุด และได้รับการยอมรับมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีโรงพยาบาลในเครือ 20 แห่งทั่วประเทศไ... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
ราคา ฿24,995 - ฿34,993
โรงพยาบาลกรุงเทพ
โรงพยาบาลกรุงเทพ
โรงพยาบาลกรุงเทพ
โรงพยาบาลกรุงเทพ
โรงพยาบาลกรุงเทพ
Mordee ห้วยขวาง, กรุงเทพมหานคร
3.76 จาก 5
466 รีวิว
2024 ภาษาอาหรับ ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ ทันตกรรม ศัลยกรรมตกแต่งความงาม ผ่าตัดรักษาโรคอ้วน รถรับ-ส่ง ที่สนามบิน ร้านกาแฟ ที่พักสำหรับครอบครัว
โรงพยาบาลกรุงเทพ (หรือที่รู้จักกันในนาม ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ) เป็นศูนย์รวมของกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพ และเป็นหนึ่ง ในศูนย์การแพทย์ที่ใหญ่ที่สุด ของประเทศไทย ได้รับการรับรองจาก JCI เมื่อปี 2550 ให้บริการด้านการดูแลตติยภูมิ ศัลยกรรมความงาม และการทำทันตกรรม อื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งได้รับความไว้วางใจ... อ่านต่อ
ดูทั้งหมด
การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่
สอบถามกับทางคลินิก

สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ ใน ไทย

การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ เป็นการตรวจหาความผิดปกติหรือการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ภายในลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ของผู้ป่วย เป็นวิธีการตรวจที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ในการประเมินปัญหาในลำไส้ใหญ่ ซึ่งกล้องที่ใช้เรียกว่า colonoscope มีลักษณะเป็นท่อขนาดเล็ก และ ยาว มีความยืดหยุ่น ที่ปลายท่อมีกล้องวิดีโอและดวงไฟขนาดเล็กติดอยู่ กล้องจะบันทึกภาพในลำไส้ใหญ่จะแล้วปรากฏบนจอโทรทัศน์ จะได้ภาพที่ตมชัด สามารถบันทึกได้อย่างถูกต้องและแม่นยำมากกว่าการทำเอกซเรย์

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

แพทย์จะฉีดยาคลายความกังวลเข้าทางเส้นเลือดดำ เพื่อให้ผู้ป่วยรู้สึกง่วงและผ่อนคลาย และบางครั้งอาจมีการใช้ยาชาทั่วไป แพทย์จะทำการตรวจทวารหนักโดยการ ใส่นิ้วที่สวมถุงมือยางและทาเจลหล่อลื่นแล้ว ในช่องทวารหนักของผู้ป่วย แล้วจากนั้นแพทย์ จะสอดใส่กล้องส่องตรวจเข้าไปค่อย ๆ อย่างระมัดระวัง แล้วเลื่อนกล้องเข้าไปจนถึงส่วนต้นของลำไส้ใหญ่ ผู้ป่วยอาจมีความรู้สึกคล้ายปวดอุจจาระ ระหว่างที่กล้องอยู่ในลำไส้ใหญ่ แพทย์จะสามารถมองเห็นสภาพลำไส้ทั้งหมด ถ้าหากพบก้อนเนื้อที่น่าสงสัย แพทย์จะทำการตัดก้อนเนื้อนั้นเพื่อนำไปตรวจโรค

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

ภายหลังการตรวจลำไส้เสร็จแล้วผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ แต่ควรพักผ่อนอย่างน้อย 1 วัน ภายหลังจากการส่องกล้อง แล้วจึงสามารถกลับไปทำงานได้ในวันถัดไป ผู้ป่วยอาจรู้สึกมีแก๊สหรือท้องอืดท้องเฟ้อ ปวดมวนท้องเล็กน้อย หรืออาจเป็นตะคริว หลายชั่วโมง ผู้ป่วยอาจมีเลือดปนอุจจาระมาได้เล็กน้อย ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติ

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

ภายหลังการตรวจลำไส้ด้วยการส่องกล้องแล้ว ให้ผู้ป่วยพยามเดิน เพื่อลดอาการไม่สบายตัว เมื่อผายลมแล้วจะรู้สึกดีขึ้น สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติและออกกำลังกายได้ภายในสองสามวันหลังจากการตรวจ แต่ผู้ป่วยอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ยาบางอย่าง เช่น ยาเจือจางเลือด

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ มีอัตราความสำเร็จมากกว่า 90% ผลข้างเคียงและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ มีเลือดออกในลำไส้, มีอาการปวดท้องรุนแรง, หนาวสั่น, ไข้ และมีเลือดออกทางทวารหนักออกมามาก ควรรีบพบแพทย์ แต่อย่างไรก็ตามผลข้างเคียงและความเสี่ยงเหล่านี้ เป็นสิ่งที่พบได้ยากมาก

การบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy ) ดีไหม ?

การบำบัดและการล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ หรือ Colon Hydrotherapy เป็นการทำความสะอาดลำไส้หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่าการ “ดีท็อกซ์ลำไส้” ด้วยการใช้น้ำสะอาดเข้าไปบำบัด และล้างสารพิษที่ตกค้างในลำไส้ใหญ่  ซึ่งจะช่วยรักษาสมดุลให้ลำไส้ โดยการใช้เครื่องมือเฉพาะ ซึ่งสามารถปรับระดับ รวมไปถึงควบคุม อุณหภูมิและแรงดันน้ำให้เหมาะสมแก่การชำระล้างได้  ซึ่งอุณหภูมิที่ใช้กันในปกตินั่นจะอยู่ที่ 37.5 ถึง 38.5 องศา

ทั้งนี้ทั้งกระบวนการจะใช้น้ำประมาณ 24 ลิตร ด้วยระบบ Reverse Osmosis ทำให้น้ำที่ได้มีความบริสุทธิ์ และเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งเมื่อปล่อยน้ำเข้าสู่ร่างกายแล้ว น้ำจะเข้าไปชำระล้างสิ่งสกปรก เช่น กากอาหาร และสารพิษต่าง ๆ ที่ตกค้างในร่างกาย ถือเป็นการช่วยให้ลำไส้สุขภาพดี และมีความสะอาดมากขึ้น

ส่วนสาเหตุหลักจำเป็นต้องมีการบำบัดและล้างสารพิษนั่นก็เพราะ ของเสียในสำไส้ใหญ่นั้น ไม่สามารถถูกขับออกมาได้ทั้งหมด เนื่องจากลักษณะที่มีความยาว และขดเคี้ยวไปมา ทำให้เกิดการสะสมของสิ่งปฏิกูลไม่ว่าจะเป็น พยาธิ น้ำเมือก แบคทีเรีย กากอาหาร ที่สะสม จนส่งผลให้ส่งกลิ่นเหม็น รวมถึงเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค 

ใครบ้างที่เหมาะแก่การทำ การบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy)?

ในสังคมไทยปัจจุบันอาจจะมีบางคนที่กำลังประสบกับภาวะร่างกายมีปัญหาโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นหากมีอาการตามหัวข้อต่อไปนี้ ทุกท่านสามารถเข้าพบแพทย์ เพื่อขอคำปรึกษา และสามารถใช้บริการได้ทันที

  • มีอาการขับถ่ายยาก ขับถ่ายไม่เป็นเวลา และมีอาการท้องผูกบ่อย ๆ

  • มีผิวหน้าที่ไม่กระจ่างใส และอาจจะมีสิวเห่อขึ้น 

  • ผิวหนังไม่ชุมชื้นและแห้งเหี่ยว 

  • มีอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติ และอ่อนเพลียตลอดเวลา 

  • นอนหลับได้ยาก และรู้สึกง่วงซึมไม่สดใสหลังจากตื่นนอน 

  • ระบบเผาผลาญทำงานได้ไม่ปกติ สังเกตจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ

  • มีกลิ่นตัวแรง รวมถึงมีกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์ 

  • ปัสสาวะสงกลิ่นเหม็นฉุน 

ใครบ้างที่ไม่ควรทำ การบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy)?

โดยทั่วไปแล้วการทำหัตถการนี้ สามารถทำได้ในทุกคนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป  ซึ่งในกรณีของผู้สูงอายุ และผู้มีปัญหาสุขภาพควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับการทำหัตถการนี้ และหากมีอาการตามด้านล่างนี้ ควรจะหลีกเลี่ยงการทำหัตถการนี้ หรือรับการปรึกษาจาแพทย์อย่างใกล้ชิด ดังนี้

 

  • เด็ก และสตรีมีครรภ์

  • ผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีอาการไม่คงที่

  • ผู้ป่วยโรคความดันที่ยังไม่สามารถควบคุมอาการได้

  • ผู้สูงอายุที่มีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง 

  • ผู้ป่วยที่ภาวะช่องท้องอักเสบ (Peritonitis)

  • ผู้ป่วยที่มีแผลในลำไส้ใหญ่ และผู้ที่มีภาวะลำไส้ใหญ่อุดตันแบบ Complete Obstruction 

  • ผู้ป่วยที่มีภาวะไตวาย 

  • ผู้ป่วยที่ตรวจผลมะเร็งลำไส้ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการทำหัตถการเกี่ยวกับช่องท้อง

  • ผู้ที่เป็นริดดีดวงอักเสบ มีภาวะบวมแดง และถ่ายเป็นเลือด

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy)

ก่อนเข้ารับการรักษาด้วยวิธี Colon Hydrotherapy ควรงดรับประทานอาหารก่อนการเข้ารับบริการ อย่างนั้น 2 ชั่วโมง และในขณะที่ทำการสวนล้างลำไส้นั้นจะมีการปวดอุจจาระเป็นปกติ ตามจังหวะการปล่อยน้ำ ซึ่งหลังจากการบำบัดภายใน 15 ถึง 30 นาที อาจจะปวดอุจจาระอีกอย่างน้อย 1 ถึง 2 ครั้ง หากต้องใช้เวลาในการเดินทางกลับที่พัก หรือไปทำธุระที่อื่น ควรวางแผนเผื่อเวลาไว้เพื่อขับให้เรียบร้อย 
 

ผลลัพธ์ที่ดีหลังจากการทำ การบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy)

หลังจากการทำ Colon Hydrotherapy แล้วทุกคนจะสามารถเห็นผลได้ทันที ทั้งระบบขับถ่ายที่มีการทำงานที่ดีขึ้น ทำให้สารพิษในร่างกายลดลง ร่างกายดูสดใสขึ้น รวมไปถึงระบบภายในเช่น ระบบไหลเวียนโลหิต และการเต้นของหัวใจ และที่สำคัญคือทำให้มีสุขภาพจิตที่ดี สามารถผ่อคลายได้มากขึ้น

ผลข้างเคียงหลังจากการทำ การบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy)

หลังจากการบำบัดอาจจะมีอาการอ่อนเพลีย และง่วงนอนซึ่งเป็นอาการที่พบได้ปก รวมไปถึงการมีโอกาส ถ่ายต่อเนื่อง หรือไม่เลยหลังทำการบำบัดไป 1 วัน เนื่องจากร่างกายกำลังอยู่ในภาวะปรับตัว โดยแพทย์จะให้ Probiotic มารับประทาน เพื่อปรับสมดุลลำไส้

การรักษาพยาบาล/ศัลยกรรมนี้เกี่ยวเนื่องกับอะไรบ้าง?

การบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy) เป็นการสวนล้างลำไส้ทางทวารหนักแบบระบบปิด ซึ่งสามารถช่วยลดกลิ่นอับ เพิ่มภูมิคุ้มกัน  ด้วยความปลอดภัยในระดับสูงภายใต้การดูแลของแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ  และส่งผลให้ระบบย่อยอาหาร รวมถึงการดูดซึมอาหารสามารถทำได้อย่างดีขึ้นอีกด้วย 

ระยะเวลาพักฟื้นนานแค่ไหน?

สำหรับการบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy) ไม่จำเป็นต้องทำการพักฟื้นหลังการเข้ารับหัตถการ อย่างไรก็ตามการดูแลตัวเองเช่น การออกกำลังกาย และทานของที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม ก็เป็นวิธีหนึ่งที่สามารถส่งผลควบคู่ไปกับการทำการบำบัด ก่อให้เกิดสุขภาพที่มีขึ้นได้   

การดูแลหลังเข้ารับการรักษา/ศัลยกรรม?

หลังจากการเข้ารับ การบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy) นั้นอาจจะต้องระมัดระวังในเรื่องของอาการเพลียที่อาจจะทำให้เกิดอุบัติได้ แต่กระนั้นอาการดังกล่าวก็จะหายไปได้เองในเวลาไม่นาน รวมถึงควรทานอาหารรสอ่อน พร้อมดื่มเกลือแร่และน้ำขิง นอกเหนือจากนั้นก็ถือว่าเป็นการรักษาที่ค่อนข้างจะสะดวก และไม่จำเป็นต้องดูแลเรื่องใดเป็นพิเศษ 

มีอัตราความสำเร็จมากแค่ไหน?

การบำบัดและล้างสารพิษในลำไส้ใหญ่ (Colon Hydrotherapy) เป็นหัตถการที่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์และพยาบาลอย่างใกล้ชิด ดังนั้นจึงมีอัตราความสำเร็จที่สูงมาก และควรจะทำประมาณสัปดาห์ละ 1 ถึง 2 ครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประวัติของบุคคลและดุลพินิจของแพทย์อีกด้วย 

ประเทศไทย มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางราชการว่า ราชอาณาจักรไทย ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายโดยแบ่งออกเป็น 4 ภูมิภาค 77 จังหวัด และมีอากาศค่อนข้างร้อนชื้นตลอดทั้งปี 

เป็นที่ยอมรับกันว่าประเทศไทย เป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก นำพาชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยให้เดินทางมาท่องเที่ยวและอาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วยเหตุผลนานานับประการ และในปัจจุบันประเทศไทยยังมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เนื่องจากมีความพร้อมในการให้บริการที่ได้มาตรฐานในระบบสากล รวมทั้งมีค่ารักษาพยาบาลที่ถูกกว่า และใน ปัจจุบัน ประเทศไทย มีจํานวนสถานพยาบาล ที่ได้รับ การรับรอง มาตรฐาน ในระดับ สากล JCI มากที่สุดใน AEC ถึง 56 แห่ง ซึ่งมาก เป็นอันดับ 4 ของโลก อีกด้วย

จังหวัดท่องเที่ยวที่ยอดนิยมของไทย

กรุงเทพมหานคร อันดับหนึ่งตลอดกาลคงต้องยกให้กับจังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยและเป็นจังหวัดที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีย่านธุรกิจ และ  แหล่งช้อปปิ้งอีกมากมาย ซึ่งถ้าพูดถึงที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่ทุกคนต้องแวะไป ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติคือ วัดพระแก้ว, วัดอรุณ, วัดโพธิ์, เยาวราช, ถนนข้าวสาร, ตลาดนัดจตุจักร และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งการเดินทางคมนาคมในกรุงเทพฯนั้นก็แสนจะสะดวกสบาย สามารถเดินทางได้โดยขนส่งสาธารณะ เช่น Airport link, BTS, MRT, รถแทกซี่, รถเมล์, รถตุ๊กตุ๊ก เป็นต้น

เชียงใหม่ เชียงใหม่ก็ถือเป็นเมืองยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในช่วงหน้าหนาว ซึ่งมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบายละมีบรรยากาศที่ดี เชียงใหม่ยังเป็นเมืองที่มีธรรมชาติที่สมบูรณ์ และยังเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม สถานที่ที่น่าสนใจในเชียงใหม่ ได้แก่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ ถนนนิมมานเหมินทร์ วัดอุโมงค์ เป็นต้น เชียงใหม่เป็นเหมือนศุนย์กลางการท่องเที่ยวทางภาคเหนือ เพราะสามารถต่อรถไปยังที่เที่ยวรอบ ๆ ได้อย่างสะดวก เช่น จ. เชียงราย, จ. แม่ฮ่องสอน เป็นต้น

ภูเก็ต เกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีหาดทรายที่สวยงาม มีน้ำทะเลใส เหมาะกับการเล่นน้ำและดำน้ำ หรือทำกิจกรรมทางน้ำแบบอื่น ๆ ชายหาดที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวก็คือ หาดป่าตอง, หาดกะตะ, หาดกะรน เป็นต้น ทั้งสามารถซื้อทัวร์แบบไปเช้าเย็นกลับยังเกาะใกล้ ๆได้ เช่น หมู่เกาะพีพี, เกาะราชา, เกาะไข่ เป็นต้น หากใครที่ไม่ชอบทะเล ก็สามารถเข้าไปเที่ยวชมวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวภูเก็ตภายในตัวเมืองได้ เช่น สถาปัตยกรรมชิโนโปรตุกีสที่ถนนถลาง, ซอยรมณีย์ หรือ ไหว้พระขอพรจากวัดฉลองซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวภูเก็ต เป็นต้น

พัทยา ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนและเป็นที่นิยมมากแห่งหนึ่งไม่แพ้สถานที่อื่น ๆ และเป็นที่รู้จักกันมากกว่าตัวจังหวัด และเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดฮิตของคนไทยเพราะใกล้กรุงเทพเพียงแค่ 100 กิโลเมตร สามารถมาเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับได้สบาย และนอกจาก วอล์คกิ้งสตรีท ที่หลายๆคนนึกถึง พัทยายังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ปราสาทสัจธรรม, สวนน้ำรามายณะ เป็นต้น ซึ่งการเดินทางยอดนิยมสำหรับการมาพัทยาคือ การขับรถยนต์ส่วนตัว และการนั่งรถตู้จากกรุงเทพฯ และเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับเดินทางมาพักผ่อนแบบครอบครัวอีกด้วย

สภาพภูมิอากาศของประเทศไทย

ประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนใกล้เขตศูนย์สูตร มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เป็นตัวกำหนดลักษณะอากาศของประเทศไทย พื้นที่ส่วนบนเป็นภูเขาและที่ราบสูง พื้นที่ส่วนกลางเป็นที่ราบลุ่ม พื้นที่ทางใต้เป็นแหลมยื่นลงไปในทะเล

ลักษณะภูมิอากาศ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ฤดูกาล ดังนี้ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ ถึง พฤษภาคม, ฤดูฝน จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนมิถุนายน ถึงตุลาคม และฤดูหนาว จะเริ่ม ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน ถึงมกราคม

อุณหภูมิโดยทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ร้อนและไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีค่าเฉลี่ยทั่วประเทศประมาณ 27 องศาเซลเซียส มีค่าสูงสุดเฉลี่ย 32 องศาเซลเซียส และและต่ำสุด 22 องศาเซลเซียส โดยมีค่าอุณหภูมิผันแปรตามสภาพภูมิประเทศ กล่าวคือ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศร้อนจัดและหนาวจัดกว่าภาคอื่น ๆ, ภาคกลางและภาคตะวันออก มีบางส่วนของพื้นที่ติดกับทะเล ทำให้อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วไปประมาณ 28 องศาเซลเซียส, ภาคใต้ทั้งสองฝั่งล้อมรอบด้วยทะเล อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27.3 องศาเซลเซียส

การเดินทางในประเทศไทย

การเดินทางในประเทศไทย ไม่ว่าจะเดินทางไปที่จังหวัดไหนก็มีความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางอากาศ หรือทางน้ำ

ทางบก ก็มีเส้นทางหลักที่สะดวกไปได้ทั่วถึงทุกจังหวัดในประเทศไทย และมีทางเลือกที่หลากหลาย เช่น การเดินทางโดยรถประจำทาง, รถแทกซี่ (มีบริการในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆ), รถมอเตอร์ไซค์ (นิยมใช้บริการในระยะใกล้ๆ) รถเช่า, หรือรถยนต์ส่วนบุคคล

ทางอากาศ ปัจจุบันประเทศไทยมีสายการบินในประเทศหลายสาย ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดนิยม เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยว

ทางน้ำ เนื่องจากเมืองไทยมีแม่น้ำลำคลองอยู่ทั่วไป และยังมีหลายคลองที่มีเรือโดยสารวิ่งรับส่งคนตามท่าเรือต่าง ๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ

ประชากรในประเทศไทย

ประเทศไทย มีจำนวนประชากรโดยประมาณ 65 ล้านคนซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ โดยประมาณ 3 ใน 4 มีเชื้อสายไทย นอกจากนี้ยังมีคนไทยเชื้อสายจีนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งคนไทยเชื้อสายมลายูในภาคใต้ตอนล่าง และคนไทยเชื้อสายมอญ เขมร และชาวเขาเผ่าต่าง ๆ และประชากรส่วนใหญ่ ส่วนใหญ่นับถือ ศาสนาพุทธ และศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ตามลำดับ

ข้อมูลอื่น ๆ

ภาษา ประเทศไทยมีภาษาไทยเป็นภาษาราชการเพียงภาษาเดียว มีการระบุว่าเป็นภาษาหลักของการศึกษาและใช้ในราชการ ในขณะที่ ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาที่สองที่พบมากที่สุดในประเทศไทย

สกุลเงิน สกุลเงินที่ใช้เป็นสกุลเงินบาท

วันหยุด ราชการ ที่สำคัญ ของไทย ได้แก่ วัน ขึ้นปีใหม่, วัน สงกรานต์,วัน เฉลิมพระชน มพรรษา ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และของสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินี, วัน แม่แห่งชาติ เป็นต้น

การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในไทย

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นับเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ทำรายได้เข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาลในเวลาที่ผ่านมา การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในประเทศไทย เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและโดดเด่น โดยที่ประเทศไทย ติดอันดับ 1 ของ เอเชีย  เนื่องจากไทยมีหน่วยการแพทย์ที่มีคุณภาพ มีราคาที่ไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้การรักษา รวมถึงประเทศไทยนั้นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ มีจุดเด่น ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก และมีสถานพยาบาลที่พร้อม เช่น กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, ภูเก็ต, และเกาะสมุย เป็นต้น